สนทนากับผู้นำคณะนวัตกรที่เชื่อว่า เพียงคิดค้นเทคโนโลยีบนหน้ากระดาษยังไม่พอ แต่ต้องใช้งานได้บนสนามจริง PART1
Published: 27 October 2025
13 views



“ส่วนใหญ่คนในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จะเรียกผมว่า บอย เรียกอาจารย์บอยบ้าง พี่บอยบ้าง” อาจารย์บอย วุฒิชัย วิศาลคุณา รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการวิชาการ (FIBO Technovation ) จากสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) กรุณากล่าวแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเป็นกันเอง

อาจารย์บอยเล่าว่า แรกเริ่มเดิมทีตนไม่ได้สนใจงานด้านหุ่นยนต์เป็นพิเศษ แต่เหมือนชะตาฟ้าลิขิตให้เลือกเดินบนหนทางนี้ กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ผมเหมือนคนทั่วไป เป็นชนชั้นกลาง ฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวย รู้เพียงต้องประกอบอาชีพที่มีโอกาสได้ค่าตอบแทนสูง ซึ่งในยุคของผมคือ หมอ กับ วิศกร” และเหตุเพราะ “ตอนเด็ก ๆ ผมกลัวผีนิดหน่อย (หัวเราะ) ผมเลยเลือกวิศวกร เรียนวิศวกรรมเครื่องกล”

สมัยนั้นฟีโบ้ยังไม่ก่อตั้งเป็นสถาบัน เป็นเพียงห้องปฏิบัติการภายในภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล แต่ด้วยความทันสมัยของอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีอันเป็นคุณลักษณะเด่น ที่มีมาอย่างยาวนาน ของฟีโบ้นี่เอง ที่ทำให้อาจารย์บอยรู้สึกประทับใจ


หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี พ.ศ. 2546 อาจารย์บอยได้ร่วมงานกับสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) และปฏิบัติงานมาต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน รวมระยะเวลามากกว่าสองทศวรรษ แม้มีประสบการณ์เป็นที่ปรึกษารวมถึงเป็นหัวหน้าโครงการ (ในนาม ฟีโบ้) ให้กับหลากหลายบริษัท มีศักยภาพที่จะย้ายไปสังกัดองค์กรเอกชน ซึ่งสามารถทุ่มงบลงทุนให้บุคลากรได้มากกว่าองค์กรการศึกษา แต่เหตุผลของความผูกพันที่ทำให้อาจารย์บอยเลือกอยู่เคียงข้างฟีโบ้ คือความเคารพศรัทธาที่มีต่อวิสัยทัศน์ของ รศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา (ผู้ก่อตั้ง สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม) ซึ่งเป็นทั้งครู และต้นแบบ

“สมัยผมยังเด็ก ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากคำพูดของท่าน แต่เมื่ออาจารย์ชิตเกษียณแล้ว และผมต้องมานำทีม” สิ่งใหม่ที่ยึดโยงอาจารย์บอยไว้คือ คณะทำงาน “ผมเป็นห่วงลูกทีม ผมต้องพาให้ทีมของผมอยู่ได้ดี อยู่โดยไม่เดือดร้อน”

หากแบ่งลำดับชั้นการปฏิบัติงาน อาจารย์บอยบอกว่า ตนเองอยู่ตรงกลาง ระหว่างด้านบนคือ ความเคารพศรัทธาที่มีต่อ รศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ส่วนด้านล่างคือ คณะทำงาน ที่ตนรู้สึกเป็นห่วงเหมือนความรู้สึกของพ่อที่ห่วงลูก อยากพาให้เติบโตและมีพัฒนาการที่ดี ดังนั้น อาจารย์บอยจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะหาโครงการอันเหมาะสมและมีคุณค่ามาให้ฝ่ายงานที่ตนรับผิดชอบ


เกี่ยวกับฝ่ายบริการวิชาการ

เดิมทีฝ่ายงานที่อาจารย์บอยดูแลอยู่ในปัจจุบัน มีชื่อว่า ฝ่ายอุตสาหกรรม เป้าหมายช่วงแรกมุ่งเน้นให้บริการภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก ต่อมามีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ มาใช้ชื่อ FIBO Technovation เพื่อสื่อสารสิ่งที่ทำอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า นี่คือกลุ่มนวัตกร ผู้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงระบบอัตโนมัติ ซึ่งรับโครงการจากภาครัฐและเอกชนมาดำเนินงานด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยยังคงสังกัดอยู่ภายใต้สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม ที่ก่อตั้งมากว่า 30 ปี ตั้งแต่ยุคหุ่นยนต์บังคับตัวเล็กจ้อย กระทั่งถึงยุคฮิวแมนนอยด์เดินได้ที่มีระบบคิดแบบปัญญาประดิษฐ์

“เราโตมาพร้อมสังคม” อาจารย์บอยกล่าวว่า FIBO Technovation จะต้องนำหน้าบริษัทที่ทำเรื่องเทคโนโลยีในประเทศไทยอยู่ราวสามถึงสี่ก้าว ด้วยการมีเทคโนโลยีขั้นสูงกว่า ซับซ้อนกว่า ซึ่ง “หากเอกชนจะตามให้ทัน ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามปี” ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อการแข่งขัน แต่เพื่อเป็นหัวหอกให้ประเทศ โดยการนำร่องทำต้นแบบนวัตกรรมออกมา “นั่นคือภาพที่ฟีโบ้วางไว้ว่าอยากจะเป็น” ดั่งคติพจน์

A Cradle of Future Leaders in Robotics

“มีคำพูดของ รศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ที่กล่าวไว้ช่วงก่อตั้งฟีโบ้ว่า ‘ปัญหาของประเทศเป็นสิ่งที่สร้างฟีโบ้ขึ้นมา’ เพราะเมื่อรัฐบาลกำหนดนโยบายประเทศ มจธ. ก็จะกำหนดนโยบายของมหาวิทยาลัยให้สามารถตอบสนองนโยบายของประเทศ จากนั้น ฟีโบ้เองจะปรับนโยบายของหน่วยงานให้สอดคล้องกับนโยบายของมหาวิทยาลัย” และใช้โจทย์ดังกล่าวมาพัฒนานวัตกรรม เช่น หากนโยบายประเทศต้องการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น “สิ่งที่เราทำคือการพัฒนาเทคโนโลยีให้ภาคเอกชนมีศักยภาพที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการผลิต” กล่าวคือ ฟีโบ้ดำรงอยู่เพื่อแก้ปัญหาให้ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมมาโดยตลอด จนกระทั่งมีชื่อเสียงติดอยู่ในการรับรู้เช่นปัจจุบัน


ไม่เพียงแค่ก้าวหน้าแต่ต้องใช้งานได้จริง

เคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้ฟีโบ้มีชื่อเสียงในฐานะองค์กรผู้สร้างนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้เป็นอย่างดีคือ TRL (Technology Readiness Level) หรือ ระดับความพร้อมทางเทคโนโลยี ที่เป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของเทคโนโลยีในระหว่างการพัฒนา (คิดค้นโดยองค์การนาซ่า) แบ่งออกเป็น 9 ระดับคือ

TRL Level 1-3 ช่วงวิจัยขั้นพื้นฐาน 

TRL Level 4-7 ช่วงพัฒนาต้นแบบ

TRL Level 8-9 ช่วงปฏิบัติการภาคสนาม

“ฟีโบ้พยายามผลักดันตัวเองให้พัฒนางานจนจบที่ TRL ระดับ 7-9” หมายความว่า “ต้องใช้ได้จริงทุกโปรเจกต์” อาจารย์บอยให้เหตุผลว่า “ชื่อ FIBO ภาษาไทยคือ สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม เพราะฉะนั้นงานของเราต้องใช้งานได้ในสนามจริง เรียกว่าเป็นปรัชญาหรือวัฒนธรรมองค์กรที่มีมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง”


ลงมือทำในโจทย์ที่ไม่มีใครกล้า

นอกเหนือจากการมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถใช้งานได้จริง อีกคุณลักษณะสำคัญของฟีโบ้คือ “เราจะทำโจทย์ที่ไม่มีใครทำ เอกชนทำไม่ได้ โดยเฉพาะโครงการที่ต้องใช้ทฤษฎีขั้นสูง หรือเทคโนโลยีที่เมืองไทยยังไม่มี นี่คือบทบาทที่ฟีโบ้ตั้งใจจะเข้าไปขับเคลื่อน เรารับโจทย์ลักษณะนี้อยู่เสมอ เพราะในขณะที่ภาคเอกชนอาจไม่กล้าเสี่ยงกับโครงการที่มีโอกาสไม่สำเร็จ ฟีโบ้มองว่านั่นคือความท้าทายที่ควรลงมือทำ”

แต่หากวันหนึ่งภาคเอกชนพร้อมก้าวเข้ามาพัฒนาโจทย์ที่ฟีโบ้กำลังดำเนินการอยู่ ฟีโบ้ก็พร้อมจะถอยออกมา “เพื่อไม่ให้กระทบกลไกตลาด ด้วยบทบาทเราไม่ใช่คู่แข่ง แต่เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีขั้นสูงหรือโครงการที่มีความซับซ้อนเกินกว่าที่องค์ความรู้ทั่วไปในสังคมจะทำได้ และเมื่อเราพัฒนาจนสำเร็จแล้ว หน้าที่ต่อไปของฟีโบ้คือการถ่ายทอดองค์ความรู้นั้นสู่ภาคเอกชนต่อไป”


เป็นไปได้หรือไม่ที่วันหนึ่งองค์กรเอกชนในประเทศไทยจะสามารถคิดค้นนวัตกรรมขั้นสูงหรือพัฒนาเทคโนโลยีได้ซับซ้อนกว่าฟีโบ้

“เป็นไปได้ครับ แม้ฟีโบ้มีหลักการ วิสัยทัศน์ วัฒนธรรมองค์กรที่ชัด แต่องค์กรเอกชนบางแห่งมีเงินทุนมากกว่า จึงมีความเป็นไปได้ที่จะคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้เหมือนฟีโบ้ หรือแม้กระทั่งแซงฟีโบ้ไปในบางมิติ”


แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้ FIBO Technovation ยังอยู่ได้ แม้จะมีบริษัทหรือองค์กรเกิดใหม่เข้ามาแข่งขันด้านเทคโนโลยี

อาจารย์บอยเน้นย้ำถึงคุณลักษณะเด่นของฟีโบ้ว่า “เรายังมีความกล้า ต้องการท้าทายตัวเองด้วยการทำโจทย์ที่ยาก และเรายังคงพัฒนาโครงการให้ออกมาอยู่ใน TRL ระดับสูง ผมว่านี่คือสิ่งที่ทำให้ฟีโบ้ผ่านการพิสูจน์มาได้จนถึงจุดนี้” นอกจากนี้ “เราอยู่ได้เพราะพยายามปรับตัวให้ทันสมัยตลอดเวลา...”


ด้วยปรัชญาองค์กรที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำด้านวิทยาการหุ่นยนต์ ทำให้ FIBO Technovation ยังคงเคลื่อนที่ไปไม่หยุดยั้ง โดยมีเป้าหมายคือการร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีไทยให้ทันโลก

ภายใต้บริบทดังกล่าว อาจารย์บอย วุฒิชัย วิศาลคุณา จึงต้องคอยติดตามความก้าวหน้าของโลกนวัตกรรมอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแวดวงวิทยาการหุ่นยนต์ ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และส่งอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คนในหลากหลายมิติ

ตอนต่อไป เราจะพูดคุยกับอาจารย์บอยถึงทิศทางการพัฒนาวิทยาการหุ่นยนต์ว่ากำลังดำเนินไปสู่จุดใด และปัจจุบัน เมื่อระบบอัตโนมัติได้เข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์เรียบร้อยแล้ว แล้วในอนาคตอันใกล้ ที่หุ่นยนต์มีพละกำลังกับสติปัญญาเหนือกว่าผู้สร้าง พวกเราต้องเตรียมตัวรับมือกับผลของความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อันจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้อย่างไร


อ้างอิง

Wikipedia. (ม.ป.ป.). ระดับความพร้อมทางเทคโนโลยี. สืบค้นเมื่อ 27 ตุลาคม 2568, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ระดับความพร้อมทางเทคโนโลยี


Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...