วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เรานิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า วัดราชประดิษฐ์ เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่บนผืนที่ดินในพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นที่ดินสวนกาแฟมาก่อน ผู้เขียนได้ร่วมเดินทางในกิจกรรม KMUTT On Tour EP1 ชมวัด วัง ฟังประวัติศาสตร์วัดราชประดิษฐ์ฯ ที่สำนักงานกิจการนักศึกษาได้จัดให้นักศึกษาใหม่ และผู้ปกครอง โดยตลอดการร่วมทริปมีมากมายเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่น่าถ่ายทอดต่อให้ได้รับรู้กัน
ผืนที่ดิน
มีเรื่องราวเกี่ยวกับผืนที่ดินตั้งแต่การเริ่มก่อสร้างวัดราชประดิษฐสถิติมหาสีมารามแห่งนี้ด้วยปัญหาเรื่องดินอ่อน เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างต่ำด้านหนึ่งติดคลองคูเมืองเดิม จึงทำให้พื้นดินอ่อน โดยพระราชประสงค์จะถมลานพระวิหารและพระเจดีย์ให้สูงประมาณ 4 ศอกเศษแต่หากใช้ดินทรายอาจทำให้พื้นเกิดการทรุดลงได้ ดังนั้น จึงโปรแก้ให้แก้ปัญหาโดยให้ถมด้วยไหกระเทียมจากเมืองจีน เพราะมีเนื้อแกร่งไม่ผุง่าย น้ำหนักเบา เพื่อจะหาไหกระเทียมให้ได้จำนวนตามต้องการ พระองค์จึงทรงให้ออกประกาศบอกบุญให้ประชาชนนำไหกระเทียมมาร่วม หรือขายให้มาร่วมพระราชกุศล อีกถ้ามีละครการกุศลก็ให้ประชาชนมาร่วมโดยเก็บค่าผ่านประตูเป็นไหกระเทียม ไตหรือตุ่ม กระถางเล็ก ๆ ที่แตกแล้วก็ใช้ได้ และอนุญาตให้ประชาชนดูการนำไหลงฝังเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดว่าใช้ไหบรรจุเงินทอง จะได้ไม่มีผู้ใดมาแอบหาเงินทองขุดลานวัดในภายหลัง โปรดเกล้าจัดพระราชพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อพุทธศักราช 2404 วันที่ 7-9 มิถุนายน
หอระฆัง
ข้อมูลจากหนังสือราชประดิษฐ์พิพิธทรรษนา ระบุว่า ระฆังวัดราชประดิษฐฯ ที่รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาสั่งให้หล่อนั้นหล่อโรงหล่อในสหราชอาณาจักร กรุงลอนดอน ชื่อโรงหล่อ Whitechapel Bell Foundry ปัจจุบันเป็นบริษัท Colman Palmer เรียกเป็นระฆังฝรั่ง มี 3 ใบ แขวนอยู่บนหอระฆังเรียงเป็น ใบกลาง ใบใหญ่ และใบเล็ก แต่ระฆังใบใหญ่จะมีความพิเศษกว่าระฆังอื่น โดยระฆังใบใหญ่ที่แขวนเดิม ตอนกลางของระฆังมีจารึกพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงสถาปนาพระอารามเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ว่า S P B P M M (Somdet Phra Brarmendr Phra Maha Mongkut) คริสตศักราช 1861 ตรงกับพุทธศักราช 2404 (ก่อนการสถาปนาพระอาราม 3 ปี) บริเวณปากระฆังมีข้อความด้วยว่า FOUNDERS LONDON ระบุถึงการผลิตที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (วัดราชประดิษฐ์สถติมหาสีมาราม, 2565) แสดงว่าพระองค์ทรงเตรียมการเกี่ยวกับหอระฆังตั้งแต่สร้างวัดแล้ว โดยหอระฆังอาคารก่ออิฐถือปูทาสีขาวผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกและสถาปัตยกรรมไทย มีความพิเศษจากหอระฆังอื่นในการตีระฆัง คือ หอนี้ไม่มีบันไดทางขึ้นไปตีระฆัง ต้องใช้การดึงเชือกตีจากด้านในแทนการตีระฆังจากด้านนอกเหมือนระฆังทั่วไป
ต่อมาระฆังฝรั่งสามใบ ใบใหญ่แตกร้าวไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติในรัชสมัยร.6 พระองค์จึงพระราชทานระฆังฝรั่งเรือรบสามใบเถาใช้ตีบอกเวลาประกอบกิจของสงฆ์ตามระเบียบของวัด ต่อมาแตกร้าวลงอีกไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
พระอุโบสถ หรือ พระวิหารหลวง
ประดิษฐาน "พระพุทธสิหังคปฏิมากร" เป็นพระประธาน ฐานพระพุทธรูปองค์นี้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยการครอบถ้ำศิลาไว้
ภาพพระประธานในอุโบสถ
มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แสดงเหตุการณ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรสุริยุปราคา ซึ่งพระองค์ทรงคำนวณล่วงหน้าไว้ถึง 2 ปี และทรงโปรดให้ตั้งพลับพลาที่บริเวณนั้นโดยครั้งนั้นพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ (รัชกาลที่ 5) เสด็จร่วมส่องกล้องทอดพระเนตร และนักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศสและข้าหลวงอังกฤษประจำสิงคโปร์มาตั้งค่ายดูบริเวณใกล้เคียงด้วย ภาพจิตรกรรมฝาผนังแบ่งภาพออกเป็น 2 ตอน ตอนบน เหนือหน้าต่างขึ้นไปเป็นภาพเทวดานางฟ้าเหาะอยู่ตามกลีบเมฆ และบริเวณอื่นเป็นภาพพระราชพิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีโสกันต์ (อ่านเพิ่มเติม) พระราชกุศลเลี้ยงตรุษจีน พระราชพิธีลอยพระประทีป เป็นต้น นอกจากนี้ในพระวิหารหลวงยังมีบานประตูหน้าต่าง ประดับด้วยบานไม้ประดับมุกงานสั่งทำเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น
พระปาสาณเจดีย์
ปาสาณเจดีย์จะเห็นว่าอยู่ด้านหลังพระวิหารหลวง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ประกอบหินอ่อนสีเทาขาวตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นามของปาสาณเจดีย์มีความหมายว่า เจดีย์ศิลา
การบูรณะปฏิสังขรณ์ของวัด
ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมประเมินและติดตามโบราณสถานอย่างพระปาสาณเจดีย์นี้ที่ีอายุกว่า 100 ปีแล้ว โดยใช้กล้องสแกนวัตถุสามมิติด้วยแสงเลเซอร์ที่บอกค่าพิกัดต่าง ๆ เช่น ความเสียหายภายในพระวิหารหลวง พระปาสาณเจดีย์ โดยผลปรากฏพบว่า พระวิหารหลวงมีความทรุดเอียงไปทางทิศใต้ฝั่งพระเจดีย์เล็กน้อย และค่าความเอียงของพระเจดีย์ที่ตรวจวัดได้มีค่าไม่มาก เบื้องต้นในการตรวจสอบภายในพระวิหารไม่พบความเสียหายที่มีต่อเสถียรภาพของโครงสร้าง การบูรณะจึงเตรียมข้อมูลกันต่อไป (อ่านเพิ่มเติม) โดยเข้าไปสังเกตการทรุดเอียงของเจดีย์อย่างเป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้ภาควิชาอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. ยังเข้าไปมีส่วนร่วมในการฟื้นธรรมเนียมการตีระฆังฝรั่งสามใบเถาให้กลับมากังวาลในวัดอีกครั้ง โดยครั้งนี้ใช้ค้อนไฟฟ้าที่เป็นตัวตีระฆังด้วย
ทีม มจธ. ได้เข้าไปวิเคราะห์องค์ประกอบส่วนผสมทางเคมีของโลหะแบบเคลื่อนที่ พบว่า มีส่วนผสมของดีบุกและทองแดง ระฆังฝรั่งจึงมีเสียงไพเราะกังวาน ทางวัดได้ติดต่อบริษัทเดิมเพื่อผลิตระฆังใหม่ ระฆังดังเพราะคนตี แต่ระฆังพังอีกอาจจะเพราะพระตีเช่นกัน การคุมน้ำหนักมือให้สม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ได้นานขึ้น ตัวแทนภาควิศวกรรมอุตสาหการ มจธ. จึงประดิษฐ์การออกแบบระบบควบคุมการตีระฆังอัตโนมัติโดยใช้ชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์
สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดในการบูรณะวัดแห่งนี้อีกชิ้นคือ การซ่อมแซมบานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น ที่กรมศิลปากรประเทศไทย ร่วมมือกับสถาบันวิจัยมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น ดำเนินโครงการอนุรักษ์ซ่อมแซม (2564-2568) เพื่อให้คงรูปแบบลวดลายลักษณะเดิม โดยส่วนใดที่หลุดล่วงไปแล้วจะไม่เติม แต่จะดำเนินงานส่วนที่เป็นพื้นรักสีดำจากยางรักเท่านั้น
หากนับจากวันพระราชพิธีผูกพัทธสีมาในปี 2408 ในเร็ววันใกล้นี้จะครบอายุวัดประจำรัชกาลที่ 4 - วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม 159 ปี ทั้งพระวิหารหลวง ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง ทั้งหอระฆัง ฯ มีหลายสิ่งที่น่าสนใจและระลึกไว้ให้เราศึกษา กับวัดขนาดพื้นที่เล็กเพียง 2 ไร่ ไม่ได้มีความยากลำบากต่อการเยี่ยมชมเลย ทุกท่านสามารถเข้าไปสักการะหรือเยี่ยมชมร่องรอยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่าได้ ณ วัดราชประดิษฐ์สถิติมหาสีมาราม ใกล้พระราชวังสราญรมย์ เขตพระนครนี้เอง
อ้างอิง
ระฆังฝรั่งสามใบเถา หอระฆังยอดมงกุฎ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม (silpa-mag.com)
ส่อง..เทคโนโลยี 3 มิติ บูรณะ 'ปาสาณเจดีย์' วัดราชประดิษฐฯ (matichon.co.th)
วัดราชประดิษฐ์สถิติมหาสีมาราม, 2566, บทเจริญพระพุทธมนต์ นวัคคหายุสมธัมม์, พิมพ์ครั้งที่ 8, โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
Categories
Hashtags