ร่องรอยแห่งรัชสมัย : ความเป็นมาของเหรียญ พระมหามงกุฎ-พระแสงจักร
Published: 16 May 2025
7 views

       ในอดีตสังคมไทยใช้ระบบแลกเปลี่ยนโดยตรง ระหว่างวัตถุกับวัตถุ ผลผลิตกับผลผลิต จึงเกิดการใช้สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน คือ “เงินพดด้วง” ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย และยังคงใช้ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ โดยมีการผลิตใช้ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4 อย่างต่อเนื่อง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการยกเลิกการใช้เงินพดด้วง และหันมาใช้เหรียญเงินที่ผลิตด้วยเครื่องจักรแทน เพื่อความสะดวกและสอดคล้องกับระบบเงินตราสากล 

เงินพดด้วง

     พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เริ่มปฏิรูประบบเงินตรา โดยทรงริเริ่มใช้ “เงินแบน” หรือ “เงินแป” แทน “เงินกลม” หรือ “เงินพดด้วง” เพื่อให้สอดคล้องกับระบบเงินตราสากลในยุโรป เนื่องจากในรัชสมัยของพระองค์ การค้าระหว่างประเทศขยายตัวมาก พ่อค้าต่างชาติจึงนำเงินเหรียญของประเทศตนเข้ามาใช้ในการซื้อขาย ทำให้เกิดปัญหาในการแลกเปลี่ยน เพราะชาวไทยยังคงใช้เงินพดด้วง เมื่อมีความต้องการใช้เงินพดด้วงจำนวนมาก พ่อค้าต่างชาติ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกา ต้องนำเงินเหรียญไปให้ช่างในพระคลังมหาสมบัติหลอมเป็นพดด้วง ซึ่งผลิตได้เพียงวันละ 2,500 บาท ขณะที่ความต้องการสูงถึงเกือบ 300,000 เหรียญ สร้างความลำบากในการค้าขาย นายเบลล์ (Mr. Charles Bell) ผู้ว่าการแทนกงสุลอังกฤษประจำประเทศไทยจึงขอพระราชทานอนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้เหรียญเงินต่างประเทศในการซื้อขาย โดยเฉพาะในการซื้อขายขนาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาความไม่สะดวกดังกล่าว

    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอนุญาตให้ใช้เงินเหรียญต่างประเทศแทนเงินพดด้วง เนื่องจากเห็นว่าเงินจากต่างประเทศจะช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น ราษฎรมีทรัพย์สินมากขึ้น และเพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้เงินตรา ทรงกำหนดให้เจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติตรวจสอบและตีตราสัญลักษณ์ของแผ่นดินและรัชกาล คือ “ตราจักร” และ “ตรามงกุฎ” ลงบนเหรียญเหล่านั้น

เหรียญนอกตอกตราตราจักรและตรามงกุฎ

                 เมื่อความต้องการใช้เงินตราในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการผลิตเงินพดด้วงไม่เพียงพอ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงงานผลิตเหรียญด้วยเครื่องจักรแทนแรงคน ในปี พ.ศ. 2403 โดยตั้งอยู่ที่บริเวณประตูพรหมโสภาในพระบรมมหาราชวัง และพระราชทานชื่อว่า “โรงกระษาปน์สิทธิการ” เพื่อผลิตเหรียญตามแบบสากล

เหรียญที่ผลิตมีลักษณะแบนและกลม คล้ายเหรียญของต่างประเทศ ตราของเงินเหรียญใช้รูปจักรมีช้างยืนบนแท่นอยู่กลางตราประจำแผ่นดิน จักรมี 9 กลีบ รอบจักรมีดอกจัน 8 ดอก ในขนาดหนึ่งบาท กึ่งบาท 4 ดอก สลึง 2ดอก เฟื้อง 1 ดอก ส่วนตราประจำรัชกาล มีรูปร่างเป็นพระมหามงกุฎยอดมีรัศมี มีฉัตร 5 ชั้น กระหนาบสองข้าง พื้นเป็นเปลวนกมีดอกจันล้อมรอบจำนวนเท่าตราจักร

เหรียญพระแสงจักร - พระมหามงกุฎ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ  ให้ผลิตขึ้นใช้เป็นครั้งแรกในปี 2501

         แม้ว่าในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเริ่มผลิตเงินเหรียญจากโรงกระษาปน์ภายในประเทศแทนเงินพดด้วงแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ยกเลิกการใช้เงินพดด้วงอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีประกาศเลิกใช้เงินพดด้วงทุกชนิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2447 และให้ประชาชนนำเงินพดด้วงมาแลกเป็นเงินเหรียญ หรือนำไปชำระภาษีหรือรายได้ของรัฐ โดยกำหนดวันสุดท้ายของการแลกเปลี่ยนไว้คือ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2451

 

ข้อมูลอ้างอิง

     มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. สำนักหอสมุด, วรจิตติ์ ปิยะภาณี, นิตยา บุญปริตร, & ลดาวัลย์ ศรีธวัช ณ อยุธยา. (2548). พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

      ส.พลายน้อย. (2544) .พระบาทสมเด็จฯ พระจอมเกล้า พระเจ้ากรุงสยาม. กรุงเทพฯ: พิมพ์คำ

     กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม. (2567). รัชกาลที่ 4 รับสั่งทำ “เหรียญกระษาปณ์” รับมือการค้ากับต่างชาติ. (ออนไลน์)  URI: https://www.silpa-mag.com/history/article_29937  /, สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2568

Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...