พระจอมเกล้าศึกษา เมืองเพชรบุรี
วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 คงจะเป็นวันธรรมดาสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ราชบุรี วันนั้นกลับพิเศษกว่าเพราะได้ออกเดินทางสู่เมืองเพชรบุรี เพื่อร่วมกิจกรรม Co-curriculum: พระจอมเกล้าศึกษา เมืองเพชรบุรี ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะอาจารย์ผู้นำทางความรู้และแรงบันดาลใจ นำโดย ดร.ทศพร ทองเที่ยง และ คุณสุภาวดี สังข์วรรณ
เป้าหมายของกิจกรรมนี้ไม่ใช่แค่การพาไป “ดู” สถานที่ แต่คือการพานักศึกษาไป “สัมผัส” เรื่องราวและคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในอดีตและปัจจุบันของเมืองเพชรบุรี เมืองแห่งสามวัง สามทะเล และสามรส ด้วยแนวคิด “พระจอมเกล้าศึกษา” — การเรียนรู้ที่เน้นประสบการณ์จริง การตั้งคำถาม และการเปิดใจต่อสรรพสิ่งรอบตัว
📍เส้นทางการเรียนรู้ ที่เรียงร้อยเป็นเรื่องราวทั้งวันเริ่มต้นจาก...
วัดมหาสมณาราม วัดเก่าแก่ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงผูกพันเป็นพิเศษ นักศึกษาได้เห็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างไทยและตะวันตก พร้อมกับจิตรกรรมฝาผนังที่สะท้อนแนวคิดศาสนาและวิถีชีวิตในอดีต
ถัดมาเป็น อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) สัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดเพชรบุรี เมื่อมองจากเบื้องล่างขึ้นไปยังยอดเขา จะเห็นพระที่นั่ง เจดีย์ และสิ่งปลูกสร้างเรียงรายอย่างสง่างาม บนเนินเขาที่สูงเด่นกลางเมือง การเดินขึ้นเขานอกจากจะได้สัมผัสกับความงามของทัศนียภาพโดยรอบแล้ว ยังได้ชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกกับศิลปะแบบไทยอย่างกลมกลืน
พระนครคีรีไม่ได้เป็นเพียงพระราชวัง หากแต่เป็นภาพสะท้อนพระปรีชาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ผู้ทรงบวชมานานก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงนำความรู้จากพระพุทธศาสนา ดาราศาสตร์ และภาษาอังกฤษ มาประยุกต์ใช้ในการบริหารบ้านเมืองอย่างรอบด้าน พระราชวังแห่งนี้จึงเปรียบได้กับ “หอวิทยาการ” ที่สะท้อนแนวคิดก้าวไกลของพระองค์
ตามเรื่องเล่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงมีวิสัยทัศน์ล้ำยุค ทรงโปรดให้สร้างพระนครคีรีขึ้นเพื่อเป็นทั้งที่ประทับพักผ่อน และเป็นหอดูดาวสำหรับศึกษาดาราศาสตร์ สะท้อนพระราชหฤทัยที่เปิดกว้างต่อโลกวิทยาศาสตร์ควบคู่กับหลักธรรมแห่งพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง
และไปกันต่อ ณ วัดมหาธาตุวรวิหาร นักศึกษาได้ใกล้ชิดกับพระปรางค์ 5 ยอด ศิลปกรรมแบบขอมและอยุธยาที่ชวนให้ตั้งคำถามถึงรากเหง้าและความเปลี่ยนผ่านของวัฒนธรรม
ในช่วงบ่าย แสงแดดสาดส่อง นักศึกษาได้เดินทอดน่องใน ตลาดริมน้ำเพชรบุรี ร่วมพูดคุยกับชาวบ้าน ชิมข้าวแช่ตำรับเจ้าจอมมารดากลิ่น รับรู้ถึงวิถีชีวิตที่ยังคงเคลื่อนไหวไปพร้อมประวัติศาสตร์
ณ พระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) พระราชวังสไตล์เยอรมัน สถาปัตยกรรมแบบบาโรค (Baroque) และแบบอาร์ตนูโว (Art Nouveau) หรือที่เยอรมันเรียกว่าจุงเกนสติล (Jugendstil) นักศึกษาได้ตั้งคำถามถึงเหตุผลในการเลือกสถาปัตยกรรมต่างชาติ และการปรับตัวของกษัตริย์ไทยในยุคโลกาภิวัตน์
และสุดท้าย ปิดวันด้วยลมทะเลเย็น ๆ ที่ หาดเจ้าสำราญ ไม่เพียงพักผ่อนใจ แต่ยังได้เรียนรู้เรื่องราวของพระราชนิยมและการเลือกพื้นที่เพื่อการพักผ่อนในอดีต
✨ กิจกรรมนี้ไม่ได้หวังให้เกิดเพียงความรู้ในเชิงวิชาการ แต่หวังให้เกิด การเปลี่ยนแปลงจากภายใน ผ่าน 5 กระบวนการเรียนรู้ ที่ออกแบบมาให้ “กระตุ้นความคิด ปลุกความรู้สึก และเชื่อมโยงกับชีวิตจริง” ได้แก่:
💡 ลักษณะ: ซึมซับความงดงามของศิลปะ ประวัติศาสตร์ และคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างไม่เร่งเร้า
🔍 ศึกษา: ลงพื้นที่จริงเพื่อเรียนรู้จากบริบท สัมผัส และรายละเอียดที่ไม่มีในหนังสือ
🤝 พบ: พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยน กับคนในชุมชน เปิดพื้นที่การเรียนรู้แบบมีชีวิต
📚 เรียนรู้: ใช้กระบวนการ Active Learning วิเคราะห์ วิพากษ์ และสะท้อนความคิดอย่างมีทิศทาง
🌱 เปิดมุมมอง: ปลดกรอบความคิดเดิม ๆ เปิดใจต่อสิ่งใหม่ และเห็นโอกาสในการต่อยอดการเรียนรู้ในอนาคต
อ้างอิง
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (ม.ป.ป.). พระรามราชนิเวศน์ (พระราชวังบ้านปืน). สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม. https://culturalenvi.onep.go.th/site/detail/3474
กรมศิลปากร. (ม.ป.ป.). อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี. สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี. http://virtualhistoricalpark.finearts.go.th/phranakhonkhiri/index.php/th/
Categories
Hashtags