โครงการพัฒนาพื้นที่ มจธ. จังหวัดสมุทรสาคร ต้นแบบพื้นที่เรียนรู้ร่วม (Living Lab) ด้านระบบนิเวศป่าชายเลน
Published: 4 December 2025
1 views


 

ที่มาของโครงการ

คุณณัฐวรรณ พันทอง นักวิชาการจาก สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรกายภาพ มจธ.บางขุนเทียน กล่าวถึงที่มาของโครงการพัฒนาพื้นที่ มจธ. จังหวัดสมุทรสาคร ต้นแบบพื้นที่เรียนรู้ร่วม (Living Lab) ด้านระบบนิเวศป่าชายเลนว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีได้รับที่ดินจำนวน 4 แปลง ขนาด 136 ไร่จากภาคเอกชน และต่อมาในปี 2565 จึงเริ่มดำเนินโครงการโดยมีเป้าหมายเพื่อเพื่อขับเคลื่อนเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัยที่ต้องการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2583 (KMUTT Neutrality 2040) ด้วยการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนและเป็นศูนย์เรียนรู้ภาคปฏิบัติสำหรับนักศึกษาและผู้เยี่ยมชม

 

ความท้าทายของโครงการ

              คุณชลลดา ทองแสง เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการเสริมว่า ช่วงแรกที่ทดลองปลูกต้นโกงกางจำนวน 2,000 ต้นประสบความล้มเหลวเนื่องจากปัจจัยทางธรรมชาติอย่างกระแสน้ำขึ้นน้ำลงของทะเลไม่สมดุลกับวงจรชีวิตต้นโกงกาง ต่อมาทางคณะทำงานจึงค้นพบวิธีเพาะต้นโกงกาง ด้วยการนำฝักไปชำในโรงเพาะประมาณหนึ่งสัปดาห์ให้ออกรากและผลิใบ จากนั้นจึงลงบ่อดามด้วยไม้ไผ่ผูกเชือกไม่ให้ล้ม โดยต้องนำน้ำออกจากพื้นที่ทั้งหมดเป็นเวลา 1 เดือน เมื่อต้นโกงกางอยู่รอดได้จึงปล่อยน้ำเข้า

              “ด้วยพื้นที่ของบางขุนเทียนอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเล ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นโกงกางคือน้ำขึ้นน้ำลง เพราะปริมาณน้ำทะเลที่มากหรือน้อยนั้นส่งผลต่อความกร่อยของน้ำ” คุณชลลดากล่าว

 

ผลกระทบเชิงบวก

              โครงการนี้ช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน ผ่านการรับซื้อฝักโกงกางเพื่อสร้างรายได้เสริมให้คนในพื้นที่ รวมทั้งการร่วมมือกับ ศูนย์การจัดการพลังงาน สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (Energy Environment and Health: EESH) เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน โดยมีเป้าหมายเป็นกลุ่มนักศึกษาทั้งชาวไทยและต่างชาติ อาทิ ญี่ปุ่น อเมริกา และเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 มีกลุ่มนักศึกษาจากมาเลเซียจำนวน 55 คนได้ลงพื้นที่ปลูกต้นโกงกาง

 

 

 

Energy Environment and Health: EESH

เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ด้านจัดระบบบริหารจัดการและจัดทำระเบียบปฏิบัติข้อบังคับด้านพลังงานสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยให้สอดคล้องกับเป้าหมายวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยและประสานให้เกิดการดำเนินการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับนั้น ๆ ให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกันทั้งมหาวิทยาลัย โดยการดำเนินงานของศูนย์ EESH จะทำหน้าที่ประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญ คณะ และสำนักต่าง ๆ ในด้านการจัดระบบ การจัดฝึกอบรม จัดนิทรรศการ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปลูกจิตสำนึก รวมถึงการจัดหาครุภัณฑ์อุปกรณ์และเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบ ติดตามการซื้อการใช้และการรายงานผลรวมถึงดูแลด้านการตรวจสอบความปลอดภัยและอาชีวอนามัยเพื่อให้เกิดการเรียนการสอนการวิจัยและการทำงานอย่างปลอดภัยขึ้นภายในมหาวิทยาลัยอย่างเป็นระบบ

โดยศูนย์การจัดการด้านพลังงานสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยจะทำหน้าที่วางแผนการดำเนินงาน การปฏิบัติงานตามแผน และการรายงานผลตามแผนให้กับประชากรภายในมหาวิทยาลัยได้รับรู้อย่างต่อเนื่อง ตามที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีได้วางเป้าหมายการดำเนินการของมหาวิทยาลัยอย่างชัดเจน ในการมุ่งสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) ที่มีการจัดระบบบริหารจัดการด้านพลังงานสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างมีคุณภาพและบูรณาการระบบเหล่านั้น ให้เข้ากับการดำเนินการทุกด้านของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นต้นแบบให้กับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชน ได้นำไปประยุกต์ให้เกิดผลดีต่อสภาพแวดล้อม นักศึกษา บุคลากรภายในมหาวิทยาลัย ตลอดจนชุมชนและอุตสาหกรรมที่อยู่รอบข้างมหาวิทยาลัย เพื่อก่อให้เกิดผลดีต่อสภาพแวดล้อมของประเทศโดยรวม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านการจัดการพลังงานสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยอย่างยั่งยืน

 

 

ห้องเรียนธรรมชาติ

นอกจากกิจกรรมปลูกป่าชายเลน โครงการนี้ได้สนับสนุนวิชาเรียนของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ ด้วยการให้นักศึกษาเข้ามาศึกษาธรรมชาติ เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจไปพัฒนาผลงานของตนเอง อาทิ การศึกษาผลต้นตะบูนเพื่อทำเครื่องประดับ การนำต้นลำแพน ใบชะคราม ไปแปรรูปเป็นอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าของวัตถุดิบ

 

คุณค่าของการร่วมลงมือทำ

คุณณัฐวรรณแบ่งปันความประทับใจในโครงการนี้ว่าคือการได้ลงมือปฏิบัติจริง “เราลงไปปลูกต้นโกงกางในพื้นที่ว่าง ๆ จากไม่มีอะไรเลย เราเริ่มทำตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันที่เราได้เห็นมันผลิดอกออกผล วันที่ประสบความสำเร็จ” และเมื่อได้ยืนมองป่าโกงกางบนพื้นที่ขนาด 136 ไร่ผ่านสายตาตน คุณณัฐวรรณก็อดไม่ได้ที่จะบอกตัวเองอย่างภาคภูมิว่า เธอคือหนึ่งในเรี่ยวแรงกำลังที่ร่วมสร้างมันขึ้นมา

คุณชลลดาเสริมว่า นอกจากการลงมือทำ โครงการนี้ยังพาให้เธอได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจำนวนมาก เนื่องจากในกระบวนการการทำงาน ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายภายใน มจธ. บางขุนเทียน รวมถึงชุมชนโดยรอบ ทั้งหน่วยงานราชการ และภาคเอกชน

 

อนาคตข้างหน้า

ขณะนี้ โครงการพัฒนาพื้นที่ มจธ. จังหวัดสมุทรสาคร ต้นแบบพื้นที่เรียนรู้ร่วม (Living Lab) ด้านระบบนิเวศป่าชายเลน ได้มีการปลูกต้นโกงกางจนเกือบเต็มพื้นที่จำนวน 4 แปลงแล้ว และเป้าหมายต่อไปของโครงการคือการเสริมกำลังด้านวิชาการ ด้วยการปรับปรุงอาคารให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ และเพิ่มการประชาสัมพันธ์เพื่อให้มีผู้เข้ามาใช้บริการในพื้นที่มากยิ่งขึ้น

 

อ้างอิง

  1. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี.(2565).มจธ. มุ่งสู่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2040 (KMUTT Carbon Neutrality 2040 ).สืบค้น 26 พศจิกายน 2568 จาก https://www.kmutt.ac.th/sdgs/28/04/2022/17101/
  2. KMUTT SUSTAINABILITY.(ม.ป.ป.).STRATEGIC PLAN FOR KMUTT CARBON NEUTRALITY 2040.สืบค้น 26 พฤศจิกายน 2568 จาก https://sustainable.kmutt.ac.th/operational-plan-for-kmutt-carbon-neutrality-2040/
  3. ศูนย์ EESH.(ม.ป.ป.).เกี่ยวกับศูนย์ EESH สืบค้น 26 พฤศจิกายน 2568 จาก https://eesh.kmutt.ac.th/about






Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...