cooking club เพิ่มทักษะด้วยการทำอาหาร
Published: 5 April 2024
125 views

Cooking Club เพิ่มทักษะด้ายการทำอาหาร

การทำอาหารในกลุ่มยังเสริมทักษะในการวางแผนและการจัดการเวลา เนื่องจากการเตรียมอาหารตามสูตรต่าง ๆ ต้องการการวางแผนและการจัดการเวลาที่ดี เพื่อให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ตามแผน นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาความสนใจในรายละเอียด เนื่องจากต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี การทำอาหารในกลุ่มยังช่วยในการพัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหา เนื่องจากอาจเกิดปัญหาต่าง ๆ ในการทำอาหารที่ต้องแก้ไข เช่น การปรับปรุงรสชาติหรือการแกะหอย ซึ่งช่วยในการพัฒนาความอดทนและการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

 cooking club : กิจกรรมที่นำขั้นตอนการทำอาหารมาใช้ร่วมกับแนวคิดและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อผลิตอาหารที่อร่อย สุขภาพดี และมีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นการเรียนรู้และฝึกทักษะการทำอาหารที่ผ่านขั้นตอนวิทยาศาสตร์ เช่น การกำหนดปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำอาหาร การสร้างสมมติฐานเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงรสชาติหรือคุณสมบัติของอาหาร การทดลองด้วยการผสมสารอาหาร การวิเคราะห์ผลลัพธ์ และการสรุปผลเพื่อปรับปรุงสูตรอาหารให้ดียิ่งขึ้น การเข้าร่วม Cooking Club เป็นโอกาสที่ดีที่จะศึกษาและทดลองการใช้วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวันผ่านทางการทำอาหารได้อย่างสนุกสนานและเป็นประโยชน์

soft skill : ทักษะทางสังคมที่ใช้เพื่อปฏิสัมพันธ์กับผู้คน นอกจากทักษะแล้ว soft skill ยังหมายรวมถึงอุปนิสัย บุคลิกภาพ ทัศนคติ และ mindset ต่างๆ ที่จำเป็นในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมด้วย ในการทำงานที่ต้องอาศัยความร่วมมือกัน soft skill จึงเป็นทักษะที่สำคัญที่จะช่วยให้การทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นไปได้อย่างราบรื่น 

ตัวอย่างของ soft skill เช่นความฉลาดทางอารมณ์ (emotional intelligence) ทักษะการสื่อสาร ทักษะการพูดโน้มน้าวใจ ทักษะการฟัง ทักษะการบริหารคน ภาวะผู้นำ การปรับตัว ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น  ทักษะการทำงานเป็นทีม อารมณ์ขัน เป็นต้น


Soft Skill แตกต่างจาก Hard Skill อย่างไร?

 ส่วน hard skill นั้นก็เป็นความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ขณะที่ soft skill จะเป็นทักษะด้านอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับวิชาชีพแต่เป็นทักษะที่จำเป็นในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณทำงานเป็นพนักงานฝ่ายบัญชี คุณต้องมี hard skill ในเรื่องของ วิธีการทำบัญชี วิธีการใช้ excel ความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับบัญชี ส่วน soft skill ที่นักบัญชีควรมี เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการเจรจาต่อรอง ทักษะความคิดสร้างสรรค์ การมี growth mindset และมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เป็นต้น 

ดังนั้นคนในวงการสรรหาจึงมักพูดกันว่า“hire people for their hard skills, but they end up firing people for their lack of soft skills.” กล่าวคือองค์กรมักจ้างคนจาก hard skill และไล่คนออกด้วย soft skill เนื่องจากถึงแม้จะทำงานเก่งแต่หากทำงานร่วมกับผู้อื่นไม่ได้การทำงานก็ไม่มีประสิทธิภาพและยังสร้างปัญหามากมายตามมาให้องค์กร ในทางกลับกันหากพนักงานคนนั้นมี soft skill ที่ดีก็จะมีโอกาสเลื่อนขั้นและก้าวหน้าในองค์กร

การทำอาหารช่วยในการพัฒนา Soft Skill ได้ยังไง?

การทำอาหารช่วยในการพัฒนา soft skills ได้จริง โดยเฉพาะเมื่อเป็นกิจกรรมที่ทำเป็นกลุ่มหรือในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการทำงานร่วมกัน นี่คือวิธีที่การทำอาหารช่วยฝึก soft skill ต่าง ๆ ได้:

1.     การทำงานเป็นทีม: การทำอาหารในกลุ่มช่วยในการพัฒนาทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การแบ่งหน้าที่ และการสื่อสารในทีม

2.     การวางแผนและการจัดการเวลา: การเตรียมอาหารตามสูตรต่าง ๆ ต้องการการวางแผนและการจัดการเวลาที่ดี เพื่อให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ตามแผน

3.     การเรียนรู้และการปรับตัว: การทำอาหารช่วยในการเรียนรู้วิธีการทำอาหารใหม่ ๆ และการปรับตัวต่อส่วนผสมหรือวิธีการทำที่ต่างกัน

4.     ความอดทนและการแก้ปัญหา: การทำอาหารอาจเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องแก้ไข เช่น การแกะหอยหรือการปรับปรุงรสชาติ

5.     ความสนใจในรายละเอียด: การทำอาหารต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งสามารถพัฒนาความระมัดระวังและความพิถีพิถันได้

6.     การควบคุมอารมณ์: การทำอาหารอาจช่วยในการควบคุมอารมณ์ เนื่องจากต้องการสมาธิและอดทนในการทำงาน

7.     ความสนุกสนาน: การทำอาหารเพื่อการพัฒนาส่วนตัวเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ช่วยในการสร้างความสุขและความสนุกในชีวิตประจำวัน

โดยรวมแล้วการทำอาหารในกลุ่มช่วยเสริมทักษะการวางแผนและการจัดการเวลา เพราะการเตรียมอาหารตามสูตรต่าง ๆ ต้องการการวางแผนและการจัดการเวลาที่ดี เพื่อให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ตามแผน นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาความสนใจในรายละเอียด เนื่องจากต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี การทำอาหารในกลุ่มยังช่วยในการพัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหา เนื่องจากอาจเกิดปัญหาต่าง ๆ ในการทำอาหารที่ต้องแก้ไข เช่น การปรับปรุงรสชาติหรือการแกะหอย ทั้งนี้ช่วยในการพัฒนาความอดทนและการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

กาทำอาหารนั้นเรามีการเรียนรู้ขั้นตอนต้องเเต่ยังเป็นวัยเด็ก เเต่เราไม่เคยรู้เลยว่าสามารถฝึกทักษะ การเข้าสังคม ความอดทน การคิดวางแผน การควมคุมอารมณ์

ด้งนั้นเรายินดีที่จะฝึกให้ กับกิจกรรม cooking Club ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สำนักหอสมุด ได้มีการจัดกิจกรรมขึ้นเพื่อให้มีการเรียนรู้และผึกทักษะด้านต่าง ๆ ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น กิมจิ

  กิมจินั้นเป็นอาหารหมักประเภทหนึ่งที่ใช้วิธีการ หมักเพื่อให้ได้กรดแลกติก ซึ่งกรดแลกติกนี้เองที่ให้รสชาติเปรี้ยวแก่กิมจิ ในกระบวนการหมักจะต้องคำนึงถึงปัจจัยทั้งหมด 5 อย่างคือ เกลือ อากาศ สารอาหารของจุลินทรีย์ อุณหภูมิ และค่าความเป็นกรด-ด่าง โดยในแต่ละผลิตภัณฑ์ที่ใช้วิธีการหมักจะควบคุมปัจจัยเหล่านี้ไม่เหมือนกัน แต่ละปัจจัยจะส่งผลต่อการหมักดังตารางต่อไปนี้

ตัวอย่างวัตถุดิบและขั้นตอนการทำกิมจิ

ภาพจาก :https://www.lib.kmutt.ac.th/gimme-kimchi/


ภาพจาก : https://www.lib.kmutt.ac.th/gimme-kimchi/

   สุดท้ายแล้วในการทำขนมให้ออกมาดีและอร่อยนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในการทำ แต่ถ้ามีความรู้หรือหลักการว่าทำไมต้องใช้วัตถุดิบหรือขั้นตอนการทำแบบนี้ จะทำให้สามารถทำออกมาได้ง่ายมากขึ้นโดยไม่ต้องทดลองทำหลายครั้ง อย่างไรก็ตามการหมั่นฝึกฝนและเรียนรู้จะช่วยให้เราพัฒนาได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับการทำอาหาร กิจกรรมครั้งหน้าจะได้ทำอะไรสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook page : KMUTT Learning Space

อ้างอิง

  1. https://adecco.co.th/th/knowledge-center/detail/career-advice/soft-skill-vs-hard-skill
  2. https://www.lib.kmutt.ac.th/gimme-kimchi/








































Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...