"อิคิไก" การใช้ชีวิตอย่างมีความหมายตามสไตล์เด็กจบใหม่
Published: 16 May 2024
17 views


"การกระทำที่มีความหมายย่อมก่อให้เกิดความสุข"

เคยนึกสงสัยในตัวเองไหมว่าแต่ละวันที่เรามีชีวิตอยู่มันมีความหมายหรือป่าว การมีชีวิตมันมีความหมายกับเรามากแค่ไหนกัน....?

ทุกคนเคยคิดหรือโดนถามด้วยคำถามเหล่านี้หรือไม่ "ถนัดอะไร" "โตขึ้นอยากทำงานอะไร" คำถามสั้น ๆ แต่เราไม่สามารถหาคำตอบให้ได้ เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่ถนัด หรือสิ่งที่อยากทำ การเติบโตโดยมีคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่กลับไม่สามารถตอบได้ทุกที มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ถึงแม้เราจะมีสิ่งที่ชอบทำหรือสิ่งที่ถนัด สิ่งนั้นสามารถเรียกเป็นความสามารถของเราได้หรือป่าว ถ้าทุกคนยังคงสงสัยในตัวเองอยู่ เรามาทำความรู้จัก "อิคิไก" กันเถอะ

woman with blonde hair holding her face

Photo by Ivan Lapyrin on Unsplash

อิคิไก ปรัญชาในการดำเนินชีวิตให้มีความหมาย

อิคิไก (Ikigai) ที่มาจากคำว่า อิกิ (iki) ที่แปลว่า การมีชีวิต และ ไก (gai) ที่แปลว่า คุณค่า ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือ จุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ โดยอิคิไก คือ ปรัชญาเซน ที่ต้องการให้มนุษย์ชื่นชมความงามของสิ่งรอบตัว ด้วยการสร้างความสุขทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณ ผ่านการรู้สึกตัวและค้นพบตัวตน อิคิไกสามารถเกิดขึ้นได้จากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การตื่นโดยคิดสิ่งที่ต้องการจะทำต่อไป การดูแลสิ่งของเครื่องใช้ การทักทายผู้คนที่ผ่านไปมา การเกิดอิคิไกบางครั้งก็เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น การกินอาหาร หรือทำสิ่งที่ชอบ

person in white shoes standing on gray concrete road

Photo by Jacqueline Munguía on Unsplash

แล้วเราต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้เกิดอิคิไกของตัวเอง

Ikigai มีส่วนประกอบหลัก 4 อย่าง ดังนี้

1. สิ่งที่เรารัก (Passion)

2. สิ่งที่โลกต้องการ (Mission)

3. สิ่งที่ถนัด (Professional)

4. สิ่งที่ทำแล้วมีรายได้ (Vocation)

ภาพจาก : The Columnist

ทุกคนเคยคาดหวังหรือเปล่า คาดหวังที่อยากจะทำบางอย่างให้เป็นจริง ตั้งแต่เด็ก ๆ หลายหลายคนคงอยากที่จะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่มีงานทำหาเงินเพื่อซื้อของเราที่ต้องการ แต่งานที่เราอยากทำแล้วได้เงินคืองานอะไรกันแน่ การเตรียมตัวสู่อาชีพในฝันมันเกิดขึ้นตอนไหน วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวของคนคนหนึ่งนั้นก็คือตัวของผู้เขียนเองที่ใกล้จะเรียนจบแล้วแต่กลับยังหาอิคิไกของตัวเองไม่เจอให้ทุกคนได้อ่านกัน

บุคคลช่างฝันกับเส้นทางที่ไม่ได้เลือกด้วยตัวเอง

"โตขึ้นเราอยากจะสร้างอนิเมชั่นเป็นของตัวเอง" ความฝันเล็ก ๆ ที่เคยตั้งไว้เมื่อตัวเองยังเป็นเด็ก แต่เส้นทางที่เลือกเดินกลับสวนทางกับความฝัน เพราะคำว่าโอกาสและเงิน จุดเปลี่ยนของเรื่องราวคงเริ่มขึ้น ตอน ม.4 การเรียนต่อโดยไปตามสายที่ตัวเองชอบแต่กลับไม่ถนัดเอาเสียเลยเพราะสายที่เรียนมีตัวเลือกน้อย แต่คงยังไม่มีอะไรแย่ไปกว่าเลือกอีกทางที่ไม่ชอบและไม่ถนัด "เรียนจบจะไปเรียนต่อที่ไหน" บางคนคงคิดไว้แล้วหรือกำลังหาตั้งแต่โดนถาม แต่ถ้าโดนบอกให้เข้ามหาลัยที่ตัวเองไม่เคยคิดไว้แต่โดนพูด ย้ำ ๆ อยู่เสมอจนไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนที่นั้นหรืออยากจะเรียนต่อที่ไหนกันแน่ เป็นคุณคุณจะทำอย่างไร การเลือกเข้ามหาลัยและคณะที่ไม่ตรงกับความฝันของตัวเองเป็นเรื่องที่ทรมานและรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่นึกถึง แต่ทำไมคนคนนี้ถึงไม่ถอยกลับ ทำไมยังคงเดินหน้าต่อนั้นก็เพราะเขาเข้าใจความลำบากและความหวังดี การเกิดมาของทุกคนมีคำว่าพร้อมไม่เท่ากัน ความตั้งใจจากที่เคยตั้งไว้ก็ค่อย ๆ จางหายไปจนเหลือแต่ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของคนที่ไม่อยากออกจากอดีต แต่ถึงเขาจะได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้รักมันมากนัก แต่กลับมีความสุขอย่างน่าประหลาด คือ การมี "เพื่อนที่ดี" ที่คอยช่วยเหลือยามที่เรียนหนังสือไม่เข้าใจ หรือเวลาที่เศร้าเสียใจจะคอยอยู่ข้าง ๆ ทำให้เขาสามารถที่จะพาตัวเองก้าวเดินต่อไปได้ แต่เขาก็ไม่เคยลืมความฝันของตัวเองเลยสักครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามการคิดวาดฝันในอดีตหรือการนึกจินตนาการต่อในอนาคตไม่ว่าจะอย่างใดอย่างหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นปัจจุบัน

อะไรคือสิ่งที่เรารัก (What you love?)

การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วก่อให้เกิดความสุขที่อยากจะทำสิ่งนั้น เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยให้การเลือกทำงานในอนาคตมีประสิทธิภาพขึ้นไปอีก เช่น ก่อนที่เราจะสมัครงานสิ่งแรกที่เราควรคำนึงถึงคือเราชอบและรักในการทำอะไร เพื่อที่เราจะเลือกงานที่เหมาะสมและสามารถทำงานนั้นต่อไปได้อย่างเต็มความสามารถ หากเกิดว่าสิ่งที่เรารักดูจะสร้างงานให้กับเราไม่ได้ล่ะ นิยามของคำว่ารักดูจะไม่ใช่แค่ทำแล้วได้เงิน แต่มันอาจทำได้แค่สร้างความสุขให้กับเรา รักของแต่ละคนล้วนไม่เหมือนกัน "เรารักในการดูหนัง" ทั้ง ๆ ดูไปแล้วก็ไม่ได้ทำให้เรามีเงินสักบาท แถมดูนานก็เสียสายตา แถมเสียเงินที่ต้องสมัครสมาชิกเพื่อมาดูหนังอีก แต่ทำไมเรายังรักที่จะทำมัน บางครั้งรักไม่จำเป็นต้องสร้างมูลค่าเพียงแค่สร้างความสุขทางใจให้เราก็เพียงพอแล้ว

woman wearing blue denim button-up jacket

Photo by Omid Armin on Unsplash

"โตขึ้นเราอยากเป็นผู้กำกับ ทั้ง ๆ ที่เรารักการแต่งและจินตนาการเรื่องราวขนาดนี้ แต่ทำไมทางเลือกเราไม่มีทางให้เราได้เดินไปทางนั้นเลย" คนคนหนึ่งกับเรื่องราวในอดีต หากแก้ไขได้เขาอยากจะเริ่มเก็บเงินซะตั้งแต่ประถม แต่ใครจะรู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นแบบนี้ หากสิ่งที่รักกับทางเลือกเดินไปคนละเส้นทาง เราจะยังตามหาสิ่งรักใหม่ได้ไหม เขาชอบอนิเมะ แต่เขาเรียนอักษรศาสตร์ สองสิ่งนี้สามารถไปด้วยกันได้จริงหรอ แล้วจะไปด้วยกันยังไง เราก็ต้องมาดู

อะไรคือสิ่งที่เราทำได้ดี (What you are good at)

การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยที่เราสามารถทำออกมาได้ดีกว่าสิ่งอื่น หรือจะเรียกง่าย ๆ ว่าความสามารถหรือทักษะที่เรามีความเชี่ยวชาญและถนัดที่สุดที่สามารถนำมาใช้การทำงานได้ ซึ่งการเกิดทักษะนั้นเกิดขึ้นจากการฝึกฝนจนชำนาญ

"เรียนก็ไม่ตรงกับความชอบ เรายังจะทำได้ดีอีกหรอ" การทำบางสิ่งจนเชี่ยวชาญไม่จำเป็นต้องเรียนให้ตรงกับสาย เพียงแต่เราพัฒนาตนเองเพื่อไปยังสิ่งที่ตัวเองรักได้จนเกิดเป็นทักษะความสามารถที่เราทำได้ดี เมื่อเราพบแล้วว่าเราทำอะไรได้ดีที่สุด เราจะเข้าใกล้อิคิไก (Ikigai) ของตัวเองมากขึ้น

person writing on brown wooden table near white ceramic mug

Photo by Unseen Studio on Unsplash

สิ่งที่ทำให้เกิดรายได้ (What you can be paid for)

เรารู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เรารัก อะไรคือสิ่งที่ถนัด สองสิ่งนี้จะนำมาซึ่งการสร้างรายได้ให้เรากับ การเลือกสมัครหรือมีอาชีพเป็นของตัวเอง หากเลือกทำสิ่งที่ชอบแล้วอิคิไก (Ikigai) ก็จะยิ่งสมบูรณ์มากขึ้น

a man sitting at a desk holding a remote control

Photo by Vitaly Gariev on Unsplash

เรารู้แล้วว่าทุกงานสามารถทำเงินได้ แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่างานที่เราเลือกจะเป็นที่ต้องการ และสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น

สิ่งที่สังคมต้องการ (What the world needs)

คงปฎิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันโลกของเราเกือบทุกสิ่งทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีทั้งสิ้น ความก้าวหน้าของAI ก็ทำให้โอกาสการได้งานของเรายิ่งลดลงไปอีก การเลือกทำอาชีพใดอาชีพหนึ่งล้วนแต่หวังว่าจะมีรายได้ แต่เคยคิดไหมว่า "เราที่หวังอยากจะได้เงินจากการทำงาน แต่งานกลับไม่เคยคิดหวังที่จะให้เงินกับเราหรือเปล่า" การเลือกทำงานโดยคิดเพียงว่าฉันชอบ ฉันรัก ฉันต้องการทำงานนี้เท่านั้น จะเพียงพอที่สังคมต้องการเรา สิ่งที่โลกหรือสังคมต้องการคือผู้ที่สามารถเป็นประโยชน์แก่โลก สังคม รวมถึงบริษัท สิ่งที่จำเป็นต่อสังคมจึงไม่ใช่เพียงแค่ความชอบเท่านั้นแต่มันคือทักษะความสามารถของเราที่จะพัฒนาและผลักดันสังคมหรือบริษัทให้ก้าวหน้า เมื่อเราเห็นว่าทักษะของเราและงานที่ต้องการตรงกับสิ่งที่องค์กรต้องการแล้ว แสดงว่าอิคิไก (Ikigai) ของเราใกล้จะสมบูรณ์แล้ว

woman in white and black floral button up shirt sitting beside woman in black pants

Photo by Joeyy Lee on Unsplash

"มันยากมากนะการที่เราต้องมาทำในสิ่งที่คนอื่นคาดหวังให้เป็นทั้ง ๆ ที่ใจของเราไม่ได้รักหรือชอบมันสักนิด บางครั้งก็อยากจะหนีจากมันไปด้วยซ้ำ การทนอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบใครมันจะไปทนได้กัน" ผู้เขียนเองก็มีความรู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน การเลือกไปต่อกับสิ่งที่ไม่เคยวาดฝันเอาไว้มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดใจเสมอ เส้นทางบางครั้งมันก็ไม่มีคำว่าแน่นอน เราเพียงแต่คิดว่าอยากมีเรื่องโชคดีเกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นการคิดไปเพื่อรอความโชคดีก็อาจไม่ช่วยอะไร มีเพียงแต่ตัวของเราเท่านั้นที่จะต้องก้าวเดินต่อไป ผู้เขียนเข้าใจทุกคนที่ยังคงสับสนในตัวเองอยู่ว่าอนาคตอยากทำงานอะไร ผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งเคยผิดพลาด เคยผิดหวังในตัวเอง แม้ตัวของผู้เขียนเองจะเดินมาอีกเส้นทางแต่ก็ไม่เคยลืมความฝันในวัยเด็ก เพราะสิ่งนี้คือความรักอย่างแท้จริง แม้จะรู้ว่าไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขได้แล้ว แต่อนาคตก็ไม่ใช่สิ่งที่เรากำหนดได้เช่นกัน แต่การกระทำในปัจจุบันเท่านั้นที่เราสามารถทำให้อนาคตข้างหน้าเป็นจริงได้ เพราะอย่างนั้นผู้เขียนจึงอยากจะให้กำลังใจนักศึกษาทุกคนที่กำลังเรียนหรือใกล้จะจบแล้วแต่ยังไม่ค้นพบตัวเองว่า แม้เส้นจะเป็นตัวบอกจุดหมาย แต่คนที่จะกำหนดจุดหมาย ก็คือตัวเราเอง

ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าตัวเองเก่งหรือถนัดอะไร ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ใช้เวลาอยู่กับตัวเองจะช่วยให้เข้าใจถึงตัวตนมากยิ่งขึ้น พักจากโซเชียลบ้างเพราะการตามหาตัวตนไม่ใช่เรื่องที่เสียเวลา เพียงแต่เวลาก็ไม่ได้รอใคร ผู้เขียนจึงขอตั้งคำถามให้ได้ค้นหาอิคิไก (Ikigai) ของตนเองกัน

woman sitting on black chair in front of glass-panel window with white curtains

Photo by Anthony Tran on Unsplash

คำถามตามหาอิคิไก (Ikagi)

การหาอิคิไกของตัวเองให้เจอ จำเป็นต้องใช้ 4 องค์ประกอบของอิคิไก (ikigai)

ตอบคำถามนี้เพื่อหาสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราชอบ และเราสนใจ

1. เราจะทำอะไรถ้าไม่ต้องทำงานหาเงิน?

2. ช่วงวันหยุดเราทำอะไร?

3. อะไรคือสิ่งที่เราทำแล้วรู้สึกตื่นเต้น?

ตอบคำถามนี้เพื่อหาสิ่งที่เราทำได้ดี

1. หากเราได้ทำงาน งานแบบไหนที่เราทำแล้วรู้สึกดีที่ได้ทำ?

2. หากเราอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งที่มีคนเก่งอยู่มากมาย คิดว่าเราอยู่ระดับไหน และหน่วยงานที่เราอยู่เน้นทักษะอะไร?

3. หากเราได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้ว คิดว่าจะเราสามารถพัฒนาให้ทักษะนี้โดดเด่นขึ้นไปอีกได้ไหม?

ตอบคำถามนี้เพื่อหาสิ่งที่เราสามารถสร้างรายได้

1. งานที่เราอยากทำจะได้รับเงินเดือนหรือรายได้หรือเปล่า?

2. สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ทำให้การดำเนินชีวิตของเราดีขึ้นหรือไม่ ถ้ายัง คิดว่าจะทำอะไรต่อไป?

ตอบคำถามนี้เพื่อหาสิ่งที่เราสามารถทำได้และเป็นที่โลก หรือสังคมต้องการ

1. ปัญหาอะไรในสังคมที่เราอยากแก้ไขให้เร็วที่สุด?

2. ถ้าเราผลิตสินค้าขายออกมาเราจะขายอะไร แล้วคิดว่าคนซื้อจะสนใจสินค้าของเราหรือไม่?

3. คิดว่างานที่เราทำและตรงกับความสามารถของเราจะก้าวหน้าต่อไปหรือไม่?

อย่างน้อยเมื่อเราสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้ว การค้นหาอิคิไก (Ikigai) ของเราจะทำให้การใช้ชีวิตอย่างมีความหมายเกิดขึ้นจริงได้อย่างแน่นอน


ข้อมูลอ้างอิงเว็บไซต์

https://th.hrnote.asia/expert-content/210730-ikigai/

https://www.shiftyourfuture.com/blog/ikigai-philosophy-for-finding-meaningful-work-to-create-a-happy-life

https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/ikigai-life-meaning

https://shorturl.asia/R8iZK

https://shorturl.asia/aiKub

ข้อมูลอ้างอิงรูปภาพ

https://www.linkedin.com/pulse/ikigai-discovering-purpose-everyday-samira-hosseini

https://www.blockdit.com/posts/5e43b13fb8f6c8207f550923











Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...