จากความฝันสู่ความจริง วิธีใช้ Self Motivation เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
Published: 18 March 2025
2 views

จากความฝันสู่ความจริง

วิธีใช้ Self Motivation เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย


           "Success is not final, failure is not fatal: it is the courage to continue that counts."

         “ความสำเร็จไม่ใช่จุดจบ ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องร้ายแรง สิ่งที่สำคัญคือความกล้าที่จะก้าวต่อไป"

– Winston Churchill     

           

           เมื่อเราต่างเป็นมนุษย์ มีสติสัมปะชัญญะ สิ่งที่ยอมต้องมาเพื่อเป็นส่วนในการกระตุ้นให้ตนเองคือ “การสร้างแรงจูงใจ” โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่าแรงจูงใจในตนเอง ดังกล่าวนี้ถือเป็นส่งที่มีความสำคัญมากในการเรียนรู้ หากใครก็ตามที่ขาดซึ่งแรงจูงใจ บุคคลผู้นั้นก็ย่อมขาดซึ่งสิ่งสำคัญในชีวิต อาทิ หากนักเรียนไม่มีแรงจูงใจในการเรียน ผู้เรียนก็จะขาดความเอาใจใส่ในการอ่านหนังสือ หรือการฟังบรรยาย โดยอาจเผาผลาญเวลาไปกับกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนรู้ (ที่แย่กว่านั้นคืออาจไปทำกิจกรรมที่ไม่ส่งผลต่อการเรียนแล้วยังส่งผลกระทบทางลบต่อสังคมเสียอีก อย่างการไปยุ่งแวะข้องเกี่ยวยาเสพติด หรือขับขี่จักรยานยนต์รบกวนผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ)

           เมื่อมองไปที่ระบบการศึกษา การขาดแรงจูงใจในการเรียน ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญการศึกษาในประเทศไทยกับทุกระดับ ดังจะเห็นได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเรียนทั่วไป เมื่อสิ้นสุดการสอนแบบบรรยาย (Lecture) หรือการสอนกลุ่มย่อยในรูปแบบต่างๆ จะพบได้ว่านักเรียนไทยในแทบทุกระดับแทบจะไม่มีข้อสงสัยใดๆ ที่จะถามผู้สอน ซึ่งต่างจากนักเรียนแถบตะวันตกซึ่งมีความกระตือรือร้นที่จะอภิปรายแสดงความคิดเห็น หรือซักถามข้อสงสัย (อาจพื้นเพเดิมของวัฒนธรรมการศึกษาในแต่ละที่ แต่ก็ถือว่ามีนัยสำคัญที่ลักษณะนิสัยของผู้เรียนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างแรงจูงใจในตนเองด้วย)

           ด้วยเหตุนี้ การจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้นักศึกษามีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง การที่นักศึกษามีความกระตือรือร้น ใฝ่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์เป็นความต้องการปราถนาที่จะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยความพยายามแข่งขันกับตนเองด้วยการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ซึ่งการสร้างให้เกิดแรงจูงใจใฝ่เรียนรู้ เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้นได้

           เกี่ยวกับการสร้างแรงจูงใจ หากผู้อ่านอยากพัฒนาตนเองในเรื่องนี้ ทางเราขอแนะนำหนังสือ Atomic Habits ของ James Clear โดยสามารถเข้ามายืมหนังสือได้ที่นี่ Hibrary | atomic habits เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น

 

ว่าด้วยเรื่องของแรงจูงใจ?

           แรงจูงใจ เข้าใจโดยง่าย ความหมายคือ พลังหรือแรงผลักดันที่ทำให้เราอยากทำการงานนั้นๆ (เช่น แรงผลักดันทำให้อยากเรียน) ซึ่งจะแบ่งแรงจูงใจออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

           1. แรงจูงใจภายใน คือ แรงจูงใจที่มาจากภายในตัวบุคคล มักเกิดจากความพึงพอใจในการทำงาน ความรักในงานที่ทำ ความท้าทายในการทำงาน หรือความต้องการพัฒนาตนเอง

           2. แรงจูงใจภายนอก คือ แรงจูงใจที่มาจากภายนอกตัวบุคคล เกิดจากสิ่งตอบแทน ผลประโยชน์ต่างๆ หรือบรรยากาศแวดล้อม เช่น เงินเดือน โบนัส สวัสดิการ โอกาสก้าวหน้าในอาชีพ หรือการซัพพอร์ตจากครูบาอาจารย์หรือหัวหน้างาน รวมทั้งวัฒนธรรมภายในแต่ละพื้นที่นั้นๆ

           ตามที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่าแรงจูงใจ ล้วนเป็นพลังขับเคลื่อนตัวเราแต่ละคนไปสู่การทำสิ่งต่างๆ อย่างไม่ย่อท้อ เมื่อมนุษย์มีแรงจูงใจที่แข็งแกร่ง ย่อมช่วยให้สามารถเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นใจ การสร้างแรงจูงใจยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การเรียนรู้ และการพัฒนาตนเอง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างชีวิตที่ประสบความสำเร็จ

 

จะพัฒนาอย่างไรได้บ้าง?

            จากทั้งหมดทั้งมวล จะเห็นว่ามีความคัญที่แต่ละคนจำเป็นต้องมีสิ่งที่เรียกว่า “แรงจูงใจ” ด้วยเหตุนี้ทางเว็บไซต์ Fast Company จึงได้แนะนำแนวทางทั้ง 5 ที่สามารถช่วยสร้างแรงจูงใจในตนเองได้

           1. การมองไปในสิ่งที่ผ่านมา

           การมองอดีตที่ผ่านมาแล้วก่อนหน้า เพื่อทบทวนว่าชีวิตผ่านอะไรมาบ้าง จะสามารถช่วยให้แต่ละคนเห็นว่าสิ่งต่างๆ มันดำเนินไปอย่างไร? มีงานวิจัยที่สะท้อนให้เห็นว่ายิ่งถอยห่างจากช่วงเวลาของเหตุการณ์นั้นๆ มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมองเห็นความไม่แน่ไม่นอนของสิ่งนั้นๆ ได้ชัดขึ้นเท่านั้น

           เมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว ถ้าไม่รู้สึกว่าตนเองกระปรี้ประเปร่าในการทำงาน สิ่งที่ทำให้เรารู้เลยก็คือ “ต่อไปเราจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นได้บ้าง”

           2. หาคุณค่าความหมายของการทำงาน

           จำเป็นที่แต่ละคนต้องเริ่มต้นอย่างจริงจังถึงแง่มุมที่มีความสนใจ เพราะมันอาจเป็นผลลัพธ์ของงานที่มีความหมายต่อเราเองทั้งสิ้น ความหมายของการที่ทำให้แต่ละคนอยากมาทำงาน อาจเป็นวัฒนธรรมองค์กร หรือความชอบในงานนั้นๆ หรือการได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ยอดเยี่ยม มองหาสิ่งเหล่านี้เพื่อเติมพลังในการทำงานให้ตนเองอยู่เสมอ

           3. จัดลำดับของความสัมพันธ์

           ประเด็นนี้มุ่งไปสู่ผู้คนที่คุณแคร์หรือเห็นอกเห็นใจเขาในที่ทำงาน อาจเป็นเพื่อนร่วมงานที่ถูกคอหรือลูกค้าแสนดีที่ติดต่ออยู่เสมอ ความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถเติมพลังให้แต่ละคนได้ จึงเป็นเหตุให้ยามเมื่อหมดไฟ ลองนึกถึงบุคคลเหล่านี้

           4. การเซ็ตตารางชีวิตใหม่

           บางคนที่ขาดแรงจูงใจ อาจเป็นเพราะไม่ได้จัดการตารางเวลาชีวิตที่ดี ขาดการเติมพลังให้กับเรื่องส่วนตัว มาจากการปล่อยให้งานกลืนกินจนไม่มีเวลาไปใช้ชีวิต “การใช้ชีวิต คือการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่งระยะสั้น” หากต้องใช้ชีวิตในการทำงานต่อเนื่องเป็นหลายสัปดาห์ โดยไม่ได้แบ่งเวลาที่ดีให้ครอบครัว เพื่อน หรือคนที่รัก รวมถึงเรื่องสำคัญอื่นๆ ในชีวิต มันก็จะค่อยข้างยากแล้วในการรักษาแรงจูงใจในการทำงานไปได้ตลอด (หมายความว่า สักพักเดี๋ยวก็หมด)

           กลับมาตรวจสอบสักหน่อยครับ ว่าทุกวันนี้ตารางหรือการโฟกัสชีวิตเทไปทางงาน หรือชีวิตส่วนตัวมากกว่ากัน

           5. ชื่นชมตัวเองบ้าง

           การชื่นชมตัวเอง เป็นหนึ่งในการที่แต่ละคนสามารถมองเห็นคุณค่าในตนเองได้ ยอมรับในความสามารถและความสำเร็จของตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้เรารู้สึกดีกับตนเอง มีความสุข มีความมั่นใจมากขึ้น และยังมีส่วนช่วยให้เราเพิ่มความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจในการที่พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้เรารับมือกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ดี

           การชมตัวเองก็ทำได้หลายวิธีครับ ตั้งแต่ การจดบันทึกความสำเร็จของตัวเอง ใช้เวลาว่างทำในสิ่งที่ตนเองชอบ อยู่กับคนที่อนยู่ด้วยแล้วรู้สึกดี และแทนที่จะจดจำแต่ความผิดพลาดของตนเอง ให้กลับมาจำที่ความสำเร็จของตนเองด้วย

           

           จากบทความนี้ที่ทุกท่านได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน ทำให้ทราบเว่า Self Motivation เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต การมีเป้าหมายที่ชัดเจน การมองโลกในแง่ดี ความเพียรพยายาม และวินัยในตนเองเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยเสริมสร้าง Self Motivation เมื่อคุณสามารถพัฒนาและรักษาแรงจูงใจในตนเองได้ ก็ย่อมสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแน่นอน

           

 

 

Reference

1 : goodreads. (n.d.). Quotable Quote. Quote by Winston S. Churchill: “Success is not final, failure is not fatal: it ...”

2 : เชิดศักดิ์ ไอรมณีรัตน์. (2008). การสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนสนใจเรียน (Motivation).

3 : นุชจรีย์ หงส์เหลี่ยม, เชิดศักดิ์ ไอรมณีรัตน์. (2559). แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์แห่งหนึ่งในประเทศไทย, เวชบันทึกศิริราช, 9(3). หน้า 131-138.

4 : Sukpichai Khanachang. (22 มกราคม 2024). 5 เคล็ดลับบูทแรงจูงใจในการทำงานให้ตนเอง ฮึบไหว…! ไปต่อ…!. Brightside. 5 เคล็ดลับบูทแรงจูงใจในการทำงานให้ตนเอง ฮึบไหว...! ไปต่อ...! - Brightside People

5 : True ปลูกปัญญา. (29 สิงหาคม 2567). วิธีพัฒนาทักษะการสร้างแรงจูงใจในตนเอง. วิธีพัฒนาทักษะการสร้างแรงจูงใจในตนเอง

6 : True ปลูกปัญญา. (14 พฤษภาคม 2566). ทักษะการสร้างแรงจูงใจในตนเอง. ทักษะการสร้างแรงจูงใจในตนเอง

7 : Art Markman. (19 December 2023). How to find motivation at work in 2024, no matter your job. FastCompany. How to find motivation at work in 2024, no matter your job


Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...