การศึกษาแบบภาคสนาม: ห้องเรียนชีวิตที่ไร้กำแพง
Published: 28 April 2025
3 views

การศึกษาแบบภาคสนาม: ห้องเรียนชีวิตที่ไร้กำแพง

 

           "Learning is the process whereby knowledge is created through the transformation of experience."

“การเรียนรู้คือกระบวนการสร้างความรู้ ผ่านการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ให้กลายเป็นความเข้าใจ”

– Albert Einstien         

           

           ในโลกที่การเรียนรู้หมุนไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับกระแสนวัตกรรมสังคมที่เปลี่ยนไป วิธีการจัดการเรียนการสอนนั้นมีความสำคัญต่อการส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้สู่ผู้เรียน เพราะจะเป็นแนวทางให้สามารถถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ สร้างสถานการณ์การเรียนรู้ให้แก่ ผู้เรียน กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางความคิด

           นอกจากนี้ ด้านวิธีการสอนในรูปแบบต่างๆ ในยุคปัจจุบันยังเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลสูงต่อการกระตุ้นให้ผู้เรียนกลายเป็นผู้แสวงหาความรู้ด้วยตนเองในการคัดเลือกสื่อการเรียนรู้มาใช้ประกอบ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นย่อมควรมีความหลากหลายทั้งการบรรยาย การสะท้อนความคิด การเรียนรู้แบบร่วมมือ ภาคสนาม การระดบสมองหรือวิธีการรูปแบบอื่นๆ ซึ่งสามารถช่วยให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีคุณประโยชน์สูงสุดอันจะเกิดผลดีแก่ตัวผู้เรียน มีความน่าสนใจ เข้าใจได้โดยง่าย รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ และเข้าใจบทเรียนได้อย่างถ่องแท้

           โดยในบทความชิ้นนี้จะเป็นการนำเสนอแนวทางการศึกษารูปแบบหนึ่งที่สามารถเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับผู้สอนสามารถนำไปเป็นแนวทางพัฒนาผู้เรียนให้เกิดผลลัพธ์ทางการเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้นได้ อย่างการเรียนรู้แบบ “ภาคสนาม”

 

ว่าด้วยการเรียนรู้แบบภาคสนาม

           เกี่ยวกับการให้ความหมาย ซึ่งอธิบายได้ว่า ในการเรียนรู้ภาคสนาม การสอนมักจะขยายออกยังสถานที่นอกห้องเรียนหรือนอกห้องปฏิบัติการเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สัมผัสบรรยากาศ หรือสถานการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ผ่านการมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับสภาพแวดล้อมที่สะท้อนแนวคิดที่เรียนรู้ มากกว่าการเรียนรู้ผ่านการเสนอทางอ้อม เช่น หนังสือหรือการเข้าฟังบรรยาย หรือให้เข้าใจอย่างง่ายคือ โดยหลักแล้วก็คือการศึกษาที่เน้นไปที่การปฏิบัติเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติจริงในห้องเรียนหรือนอกห้องเรียนก็ตามแต่

           วิธีการสอนแบบภาคสนาม จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการไปศึกษานอกสถานที่ ซึ่งจะแตกต่างจากการพาไปทัศนศึกษา การทำงานภาคสนามไม่จำเป็นจะต้องพาไปนอกสถานที่เสมอไป อาจเป็นการสำรวจ การสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ในสถานศึกษา การวัด การทำแผนที่ ฯลฯ หากผู้สอนให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ภาคสนามนอกสถานศึกษา อาจเลือกพาผู้เรียนไปสำรวจบริเวณใกล้ๆ สถานศึกษา เช่น ร้านค้า ถนน บ้าน หรือชุมชน ทั้งนี้อาจจัดการให้ผู้เรียนได้พูดคุยกับบุคคลซึ่งเป็นภูมิปัญญาในเรื่องนั้น ได้สังเกตปรากฏการณ์ต่างๆ ช่วยให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้จากสิ่งที่เป็นเพียงนามธรรมไปสู่ความเป็นรูปธรรม เกิดความคิดสร้างสรรค์และสร้างเจตคติที่ดีให้แก้ผู้เรียน

 

แนวทางการจัดการสอนแบบภาคสนามทำอย่างไรได้บ้าง

           เนื่องจากเป็นรูปแบบการสอนที่ไม่มีอะไรตายตัวว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้หรือแบบไหน แต่เพื่อให้เห็นภาพอย่างชัดเจนขึ้นมาสักหน่อย จึงจำแนกได้เป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้

         1. การวางแผนล่วงหน้า : เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้เรียนในด้านความรู้ พฤติกรรม จิตสำนึกก่อนกระทำลงพื้นที่จริง หาวัตถุประสงค์ของการไปภาคสนามอย่างชัดเจน อาจให้ความรู้ผู้เรียนในด้านนั้นๆ ก่อนลงภาคสนาม เช่น หากให้ผู้เรียนได้ลองไปชมซากโบราณคดีทางประวัติศาสตร์ ผู้สอนอาจเล่าถึงประวัติคร่าวๆ ให้ผู้เรียนฟังก่อนเพื่อเป็นพื้นฐานไว้ก่อนได้ เป็นต้น

           2. การลงพื้นที่จริง : เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงผ่านการมีส่วนร่วมกับสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจและเชื่อมโยงความรู้นั้นๆ ให้ผู้เรียนได้สังเกตสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม หรือสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ให้ได้ลองเข้าไปซักถาม พูดคุย หรือสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามด้วยบันทึกข้อมูล อาจเป็นการถ่ายภาพ เขียนบันทึก หรืออัดวิดีโอไว้

         3. การสะท้อนความคิด : เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ตีความ วิเคราะห์ และเปรียบเทียบสิ่งที่พบในภาคสนามกับทฤษฎีหรือความรู้ในห้องเรียนที่ได้รับ อาจตั้งคำถามที่กระตุ้นการใช้ความคิดเชิงวิพากษ์ เช่น “เห็นสิ่งที่สอดคล้องกับที่เรียนมาบ้างไหม?” รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างเพื่อนคนอื่นๆ

           4. การประมวลผลและสังเคราะห์ : จัดระบบความรู้ที่ได้จากภาคสนามให้กลายเป็นองค์ความรู้ที่มีความหมาย และสามารถนำไปใช้ต่อได้ เช่น นำมาจัดทำรายงาน หรือทำสไลด์พรีเซตเทชัน

         5. การประเมินผลและการสะท้อนกลับ : ประเมินผลด้านความรู้ที่ได้รับ อาจมาจากการสังเกตพฤติกรรม หรือการให้ทำแบบประเมินการรับรู้-แบบประเมินความพึงพอใจ

 

จากทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้น ทราบได้ว่าการศึกษาแบบภาคสนามเปรียบเสมือนห้องเรียนที่ไร้ผนัง และบางครั้งอาจไร้โต๊ะรวมถึงไร้ซื่งเก้าอี้ หากแต่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายของผู้คน ธรรมชาติ และโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเรยนรู้ในลักษณะนี้ไม่เพียงให้ความรู้ แต่ยังเปิดโลกทัศน์ใหม่ ปลูกฝังความเคารพในความแตกต่าง และหล่อหลอมความเป็นมนุษย์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 


 

Reference

1 : Toronto Metropolitan University. (n.d.).  Kolb’s Experiential Learning Cycle. Kolb’s Experiential Learning Cycle - Experiential Learning - Toronto Metropolitan University (TMU)

2 : วันวิสา แย้มกระจ่าง. (2560). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยวิธีการสอนแบบภาคสนามในรายวิชาการพัฒนาความสามารถของบุคคลและกลุ่ม, วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น, 1(5), 51-64.

3 : Queen’s University. (n.d.). Field-Based Learning. Field-Based Learning | Centre for Teaching and Learning

4 : D-PREP International School. (n.d.). Fieldwork. Students Engage in Fieldwork | D-PREP International School

 


Hashtags

Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...