Role Model คืออะไร? ทำไมทุกคนควรมี?
“A mentor is someone who allows you to see the hope inside yourself."
“ผู้ให้คำปรึกษาหรือแบบอย่าง คือคนที่ทำให้คุณเห็นความหวังในตัวเอง”
– Oprah Winfrey
ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การแสวงหาความรู้และการไม่หยุดอยู่กับ หรือก็คือการพัฒนาทักษะความสามารถของตนเองจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่การเรียนในระบบการศึกษาโดยมากแล้วจะเป็นการเรียนผ่านตำราที่เพิ่มเติมการอธิบายโดยครูผู้สอน หรือคอร์สต่างๆ เหล่านี้อาจให้ข้อมูลที่เป็นทักษะเฉพาะด้านได้ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หนึ่งในการเพิ่มพลังของการเรียนรู้ให้พัฒนาตนเองได้มากยิ่งขึ้นก็คือเฟ้นหาใครสักคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ แล้วจากนั้นก็พยายามเลียนแบบให้ได้อย่างเขา หากกล่าวให้เป็นภาษาที่เข้าใจได้ก็คือ การเรียนรู้จากบุคคลต้นแบบ” นั่นเอง ซึ่งเป็นเครื่องมือในการหล่อหลอมทัศนคติ แรงบันดาลใจ รวมถึงวิธีคิดที่นำไปสู่การเกลี่ยนแปลงได้อย่างลึกซึ้ง
ในชีวิตของมนุษย์อย่างเราแต่ละคนย่อมได้มีโอกาสพบปะรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลที่มีความสามารถโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์อยู่บ่อยครั้ง อาจเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาใดสาขาหนึ่งจนแตกฉาน อาจเป็นผู้ที่มีจริยธรรมอันดีงามจนเป็นที่เลื่องลือ หรืออาจเป็นผู้ที่สร้างผลงานอันเป็นคุณประโยชน์มากมายและมีเกียรติประวัติที่น่ายกย่อง รวมถึงอาจเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในสังคมที่สามารถฝ่าฟันมุมานะบากบั่นจนตนเองประสบความสำเร็จได้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากลุ่มคนเหล่านี้มักได้รับการเชิดชูยกย่องจนสามารถเป็นต้นแบบให้กับผู้อื่น อีกทั้งยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ตกผลึกวิธีคิดและการกระทำที่ผ่านการพิสูจน์แล้วมาใช้เป็นแรงบันดาลใจหรือสร้างแรงจูงใจให้กับตนเองได้เจริญรอบตามวิธีปฏิบัติของพวกเขาเหล่านั้น เพื่อแก้ไข ปรับปรุง และเกิดการพัฒนาต่อยอด ด้วยกับการเรียนพวกเขาเหล่านั้นว่า “บุคคลต้นแบบ”
ว่าด้วยการมีบุคคลต้นแบบ
ถึงตรงนี้เราอาจต้องหยิบยกคนต้นแบบระดับชื่อก้องโลก ระดับประเทศ หรือคนที่โดเด่นที่สุดในวงการนั้นมาเป็นต้นแบบเลยหรือไม่? อาจตอบได้ว่าเป็นไปตามความสะดวกของแต่ละคน หากสามารถนำประโยชน์จากคนเหล่านั้นมาพัฒนาตนเองได้จริงๆ นั้นย่อมไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักไว้คือ บุคคลต้นแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนมีชื่อเสียงระดับโลก พวกเขาอาจเป็นแค่ครูที่เคยสอนเมื่อตอนเป็นเด็ก อาจเป็นเพื่อนที่หน้าที่การงานก้าวหน้า อาจเป็นหัวหน้างานที่นำทีมได้ทีและสามารถสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้คนในทีมงานได้ บุคคลต้นแบบ จึงควรเป็นคนที่เรา เคารพ และ อยากเดินตาม ในบางแง่มุมของชีวิต (เลียนแบบมากน้อย ให้เป็นไปตามแต่ละปัจเจก) อาจเลียนแบบบางแง่มุม เช่น ความมุ่งมั่น ความซื่อสัตย์ ความกล้าหาญ หรือความสามารถในการจัดการกับปัญหาอย่างมีสติ
มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียนรู้ผ่านการสังเกตุและเลียนแบบโดยธรรมชาติ ตั้งแต่วัยเด็ก เราเรียนรู้ภาษาท่าทาง พฤติกรรมต่างๆ จากผู้ใหญรอบตัว ขณะที่เมื่อเติบใหญ่ แม้จะมีวิจารณญาณเพิ่มขึ้นและมีความคิดเป็นของตนเองมากยิ่งขึ้น แต่การเรียนรู้จากคนต้นแบบก็ยังมีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นการเรียนรู้ที่ช่วยให้สามารถเห็นภาพที่เป็นรูปธรรมของความสำเร็จหรือคุณค่าที่ต้องการ การทำความเข้าใจว่าแนวทางการพัฒนาตนเองไม่ใช่แค่เรื่องของ “พรสวรรค์” แต่คือการฝึกฝนและมุ่งมั่น เป็นการสร้างแรงจูงใจภายใจจากความรู้สึกว่า “ถ้าเขาทำไดเ เราเองก็ทำได้ไม่น้อยหน้าใคร” รวมถึงเป็นการได้รับแนวทางหรือชุดความคิดในการเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เราจะเรียนรู้จากบุคคลต้นแบบอย่างไร?
การจะเลียนแบบบุคคลต้นแบบ สิ่งที่ต้องพึงระวังเสมอคือการที่แค่ อยาก หมายถึงอยากเฉยๆ ที่ต้องการจะเป็นเช่นนั้น แต่ไม่คิดริเริ่มลงมือปฏิบัติ เริ่มเปลี่ยนแปลงนิสัยตนเองให้ไปถึงจุดที่ตั้งเป้าหมาย ต่อให้เป้าหมายยิ่งใหญ่มากเพียงใด แต่หากไร้ซึ่งการปฏิบัติ ความตั้งใจก็ล้วนแล้วไม่สร้างผลประโยชน์
เราอาจตั้งข้อสังเกตไว้เป็นแนวทางได้พอเห็นภาพได้ 4 ขั้น ได้แก่
1. เลือกบุคคลต้นแบบที่เหมาะสมกับเป้าหมาย : ไม่จำเป็นต้องมีเพียงคนเดียว อาจมีต้นแบบหลายคนจากหลายด้าน อาจมีคนต้นแบบเรื่องการสื่อสาร การบริหารเวลา หรือการเป็นผู้นำ แต่สำคัญที่ว่าต้องคนที่ตนเองรู้สึกว่า เขาคนนั้น มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เราอยากพัฒนาตนเอง ในด้านนั้นจริงๆ
2. สังเกตและวิเคราะห์พฤติกรรม : อย่ามองแค่ผลลัพธ์ของความสำเร็จ แต่ให้ลองมาดูที่ วิธีคิด นิสัย หรือ กระบวนการ ที่คนต้นแบบผู้นั้นใช้จนไปถึงฝั่งฝัน เช่น การศึกษาวิธีการรับมือกับความล้มเหลวอย่างไร? จัดการตารางเวลาชีวิตอย่างไร? หรือตัดสินใจภายใต้แรงกดดันอย่างไร?
3. ตั้งคำถามและเรียนรู้เชิงลึก : ถ้าหากมีโอกาสเข้าถึงและพูดคุยกับบุคคลต้นแบบ อ่าลังเลที่จะถามคำถาม เช่น อะไรคือบทเรียนสำคัญที่สุดในชีวิต? หรือ อะไรคือความล้มเหลวที่คุณรู้สึกว่ามีค่าที่สุด? การถามคำถามปลายเปิดเข้าไว้และได้ยินจากประสบการณ์โดยตรง มักให้มุมมองที่ลึกกว่าการอ่านหรือดูเพียงภายนอก
4. นำมาปรับใช้ ไม่ใช่เลียนแบบทั้งหมด : สิ่งที่สำคัญคือ การแปลงแบบอย่าง ให้เหมาะสมกับตนเอง ไม่ใช่พยายามเลียนแบบทุกอย่างจนเสียความเป็นตัวเองไปเสียหมด ต้นแบบควรเป็นแรงบันดาลใจ ไม่ใช่กรอบที่จะมาจำกัดความเป็นไปได้
ด้วยเหตุนี้หากผู้อ่านสนใจจะหาบุคคลต้นแบบสักคนหนึ่ง สามารลองศึกษาได้จากหนังสือ The Autobiography of Benjamin Franklin ของ เบนจามิน แฟรงค์ลิน ซึ่งเป็นบันทึกชีวิตของหนึ่งในบิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกา เผยให้เห็นแนวทาง ความคิด การฝึกฝน เผื่อว่าใครอ่านแล้วสนใจจะนำมาเป็นต้นแบบในชีวิต สามารถเข้ามาอ่านได้ที่ หอสมุดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี [สามารถสืบค้นได้ที่นี่]
ท้ายที่สุดแล้ว การเรียนรู้จากบุคคลต้นแบบจะมีความหมายก็ต่อเมื่อสิ่งนี้กระตุ้นให้ ลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็นการปรับนิสัย การตั้งเป้าหมายใหม่ หรือลองเผชิญหน้ากับความท้าทายที่เราอาจเคยหลีกเลี่ยง ทุกก้าวเล็กๆ ที่เราทำได้จากแรงบันดาลใจของบุคคลต้นแบบ คือก้าวสำคัญสู่การเป็น ต้นแบบของตนเองในอนาคต
Reference
1 : Goodreads. (n.d.). Quotable Quote. Quote by Oprah Winfrey: “A mentor is someone who allows you to see the h...”
2 : พงศกร จันทร์ฉาย, จีรพัชร บุณยพรหม, อุดมลักษม์ กูลศรีโรจน์ และศิริรัตน์ ศรีสอาด. (2566). การใช้บุคคลต้นเเบบเพื่อเสริมสร้างเเรงจูงใจในตนเอง. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 15(3). 352-367. การใช้บุคคลต้นเเบบเพื่อเสริมสร้างเเรงจูงใจในตนเอง | วารสารปัญญาภิวัฒน์
3 : พรรณราย ดวงดีเด่น. (2025). ถ้าอยากประสบความสำเร็จ อย่าศึกษา ‘ต้นแบบ’ แค่คนเดียว แต่ให้ลองหาสัก 100 คน. Thailand Forbes. ถ้าอยากประสบความสำเร็จ อย่าศึกษา ‘ต้นแบบ’ แค่คนเดียว แต่ให้ลองหาสัก 100 คน - Forbes Thailand
4 : MRG Online. (2566). “The Role Model” จุดไฟ ค้นหา-สร้าง “คนต้นแบบ” ฉบับของตัวเอง. “The Role Model” จุดไฟ ค้นหา-สร้าง “คนต้นแบบ” ฉบับของตัวเอง
Categories
Hashtags