Remote Collaboration โอกาสใหม่ในยุคการทำงานไร้พรมแดน
Published: 30 June 2025
0 views

Remote Collaboration โอกาสใหม่ในยุคการทำงานไร้พรมแดน

 

“Great things in business are never done by one person. They're done by a team of people

“สิ่งยิ่งใหญ่ในธุรกิจไม่เคยเกิดจากคนเพียงคนเดียว มันเกิดจากการทำงานของทีม”

— Steve Jobs

 

           ในประโยคข้างต้นของ Steve Jobs เป็นคำกล่าวที่ทำให้กลับมาตระหนักว่า แม้แต่ละคนจะทำงานที่แตกต่างกัน แต่ความสำเร็จของงานใหญ่ๆ ก็ต้องอาศัยคนนับสิบ ร้อย พัน ที่ต้องช่วยกันสรรค์สร้างอย่างเป็นระบบ ซึ่งในปัจจุบันนี้การทำงานทางไกล ล้วนเปิดโอกาสให้คนจากพื้นที่ไกลห่าง ได้ร่วมงานกับองค์กรที่ใหญ่มากขึ้น

           โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แนวคิดของ “การทำงานจากที่ใดก็ได้” หรือที่รู้จากกันว่า “Work From Everywhere” – (ซึ่งเป็นแขนงของการ Remote Work) ได้กลายมาเป็นรูปแบบการเรียนการทำงานที่แพร่หลาย โดยเฉพาะหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้หน่วยงานองค์กรต่างๆ ทั่วโลกต้องปรับตัวขนานใหญ่ หนึ่งในความท้าทายสำคัญของการทำงานทางไกลคือ การทำงานร่วมกันCollaboration ซึ่งเคยอาศัยการพบปะ พูดคุย และแลกเปลี่ยนกันในที่ทำงานจริง แต่สมัยนี้ ทุกอย่างกลับตาลปัตรมาเกิดขึ้นบนหน้าจอ

 

ว่าด้วยเรื่อง Remote Collaboration?

           Remote Collaboration หรือ การทำงานร่วมกันทางไกล หมายถึง กระบวนการที่บุคคลหลายคน หรือทีมงานที่อยู่กันคนละสถานที่กัน ทำงานร่วมกันผ่านเครื่องมือดิจิทัล เช่น วิดีโอคอล อีเมล แพลตฟอร์มการจัดการงาน หรือซอฟต์แวร์สำหรับการแชร์ไฟล์การทำงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ไม่ว่าจะอยู่คนละห้องหรือซีกโลก การทำงานร่วมกันก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้อย่างราบรื่น ซึ่งในปัจจุบันนี้นับได้ว่าเป็นแนวทางการเรียน/ทำงาน ที่สำคัญมากขึ้น และเป็นการเปิดโอกาสที่ดีให้กับผู้ที่อยู่ห่างไกลออกไปได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานกับหน่วยงานในระดับสูง

           หากพูดถึงในแง่ของความสำคัญ เราอาจกล่าวได้ ดังนี้

           1. เป็นการขยายขอบเขตของทรัพยากรมนุษย์ : องค์กรสามารถเข้าถึงบุคลากรที่มีความสามารถจากทั่วโลกได้ โดยไม่จำเป็นต้องพยายามจำกัดอยู่แค่ในเมืองหรือประเทศเดียว

           2. เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน : พนักงานสามารถจัดการเวลาได้เหมาะสมกับชีวิตส่วนตัว ทำให้มีความสุขในการทำงานมากขึ้น

           3. ประหยัดต้นทุน : ทั้งในแง่ของการจัดเช่าอาคารสถานที่ ค่าเดินทาง รวมถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ

           4. เพิ่มประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยี : ซอฟต์แวร์ต่างๆ ช่วยให้ติดตามงาน วัดผล และสื่อสารได้ดีกว่าเดิม

           

           และเมื่อจะนำการทำงานทางไกลมาปรับใช้ ก็ย่อมมีหลากหลายทางที่เลือกได้ว่าต้องการแบบไหน และซอฟต์แวร์หลายๆ ชิ้นก็สามารถตอบโจทย์การทำงานของหน่วยงานได้ เช่น Microsoft Team ใช้ในการสื่อสารภายในทีมแบบเรียลไทม์, Google Meet สำหรับประชุมออนไลน์ทางวิดีโอ, Trello สำหรับการจัดการความคืบหน้า, Dropbox สำหรับการจัดเก็บหรือแชร์เอกสาร, Miro สำหรับการระดมความคิดร่วมกันแบบออนไลน์ ซึ่งยังมีอีกหลายซอฟต์แวร์มาก และบางอย่างก็สามารถใช้ในได้ในหลายจุดประสงค์ตามแต่หน่วยงานใดจะเลือกใช้

           แม้ว่าการทำงานทางไกลจะมีข้อดีมากมายตามที่กล่าวไปข้างต้น แต่สิ่งที่ต้องกังวลก็คือเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ความท้าทายที่อาจพบได้บ่อยก็มีหลายอย่าง เช่น การสื่อสารที่ขาดความชัดเจนเนื่องจากขาดบริบทของภาษากาย ความเหงาและการแยกตัว เพราะพนักงานอาจเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวจากการขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน การบริหารเวลาและวินัยในตนเอง บางคนอาจทำงานไม่เป็นระบบหากขาดการควบคุม หรือความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี ที่เมื่ออินเทอร์เน็ตหรืออุปกรณ์ของพนังกานไม่พร้อม อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และอาจส่งผลเชิงลบกับองค์กรได้

           โดยหากองค์กรใดก็ตามที่ต้องการประสบผลสำเร็จในการทำงานทางไกล หรือพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ จึงควรที่จะวางรากฐานโดยเฉพาะรากฐานของการสื่อสารภายในองค์กรให้ชัดเจน กำหนดรูปแบบว่าหากเร่งด่วนให้ติดต่อช่องทางไหน ใช้โปรแกรมใดในการประชุม ขณะที่ด้านการวัดผล ก็จำเป็นจะต้องมีการตั้งเป้าหมายให้แต่ละคนรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง และควรสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สามารถไว้วางใจได้ มีความโปร่งใส การเปิดรับความคิดเห็น สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับทีมงาน รวมถึงการพยายามให้พนักงานได้มีความรู้เรื่องทักษะดิจิทัลที่มากขึ้น อาจเปิดการอบรมคอร์สออนไลน์ หรือส่งเสริมการเรียนรู้รูปแบบใดก็ได้ให้พนักงาน

 

           จากที่กล่าวมาตั้งแต่ต้น หากผู้อ่านต้องการรู้ถึงกาผนวกแนวคิดการทำงานระยะใกล้ สู่การทำงานระยะไกล ขอแนะนำหนังสือ Drive : the surprising truth about what motivates us เขียนโดย Daniel H. Pink โดยพูดถึงเรื่องแรงจูงใจของทีมที่ทำงานจากระยะไกล ซึ่งอาจนำมาปรับใช้กับการทำงานทางไกลได้ สามารถเข้ามาหาอ่านได้ที่ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี [สืบค้นได้จากลิงก์นี้]

           

           เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ ทราบได้ว่า การทำงานระยะไกล หรือ Remote Collaboration ไม่ใช่เพียงแค่กระแสการทำงานชั่วคราว แต่เป็นรูปแบบการทำงานที่จะคงอยู่ไปอีกระยะใหญ่ องค์กรที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และสามารถสร้างระบบการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ จะมีความได้เปรียบในการดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพ และปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลได้ดีกว่าเดิม

 

           

 

Reference

1 : BrainyQuote. (n.d.). Steve Jobs Quotes. Steve Jobs - Great things in business are never done by...

2 : Jess Marcello. (n.d.). Five principles for collaborating in a remote team. Magazine. Five principles for collaborating in a remote team | Karbon resources

3 : Sarah Skinner. (13 June 2025). How to Build a Strong Company Culture in a Remote-First World. Linkedin. How to Build a Strong Company Culture in a Remote-First World

4 : Indeed. (26 March 2025). Remote Collaboration: Definition, Benefits and Key Factors. Remote Collaboration: Definition, Benefits and Key Factors | Indeed.com


Categories

Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...