Procrastination: เมื่อการผัดวันประกันพรุ่งกลายเป็นพันธนาการ
“Procrastination is the bad habit of putting off until the day after tomorrow what should have been done the day before yesterday.”
“การผัดวันประกันพรุ่งคือ นิสัยแย่ ๆ ที่ทำให้เราผลัดสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เมื่อวานซืน ไปเป็นวันมะรืนแทน"
– Napoleon Hill
เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวไป เดี๋ยวทำ หรืออีกหลายเดี๋ยวที่น่าจะนับไม่ถ้วนที่มนุษย์เรามักพูดกันจนคุ้นชินคุ้นปากกันทุกหมู่เหล่าไม่ว่าจะเป็นคนคร้านหรือคนขยันก็ตามแต่ ทุกคนมักมีวลี “เดี๋ยว” เป็นของตนเองไว้ก่อนเสมอ หากแต่ความต่างกันคือเดี๋ยวของคนขี้เกียจอาจเป็น “เดี๋ยวก่อน” แต่สำหรับคนขยันอาจเป็น “เดี๋ยวนี้”
ดังที่จะกล่าวในบทความนี้เห็นจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “เดี๋ยว” ชนิดแรกที่ว่าใครโดนเข้าไปก็ย่อมต้องประสบกับล้มเหลวกันไปมากแล้วกับคำๆ นี้ เนื่องจากเป็นคำฉุดรั้งไม่ให้ก้าวเข้าไปทำในสิ่งที่ตนเองปราถนา หรืออาจไม่ปราถนาแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ไปสู่ความปราถนาได้ เช่น การทำการบ้าน ความปราถนาคือทำส่งอาจารย์ หากแต่ถ้ามีเดี๋ยวก็ย่อมฉุดไว้ก่อนว่ายังไม่ต้องทำ ณ เดี๋ยวนั้น การผลัดวันในการออกกำลังกาย หรือการละเลยเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
เหล่านี้ที่ว่ามาคือนิสัยที่เรียกว่า “การผัดวันประกันพรุ่ง” ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่หลายคนกำลังประสบโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่านักศึกษา ที่ต้องสู้กับตนเองในการทำอะไรต่างๆ แล้ว ยังต้องพบกับสังคมที่อาจหล่อหลอมให้เกิดนิสัยนั้นขึ้นมาอีกด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้หากผู้อ่านต้องการศึกษาให้ลึกมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถเข้ามาหาอ่านได้ในหนังสือ Eat that frog! : 21 great ways to stop procrastinating and get more done in less time ของ Brian Tracy ได้ที่สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเก้าธนบุรี [สืบค้นได้ที่นี่]
นิสัยนี้เกิดจากอะไร?
เรื่องนี้อาจเป็นไปตามลักษณะส่วนตัวของแต่ละคน บางคนอาจมีความมั่นใจ หรือภาคภูมิใจในตนเองต่ำ ความวิตกกังวล หรือความไม่อยากทำงานที่ยาก ซึ่งอาจพบได้ในหลายๆ ลักษณะ ดังนี้
- มีชุดความคิดที่ว่าหากอยากให้งานเสร็จต้องให้ตนเองอารมณ์ดีก่อน คนประเภทนี้มักกล่าวอ้างว่าตอนนี้สภาวะทางอารมณ์ของตนเองนั้นไม่ปกติ จึงยังไม่พร้อมเริ่มทำงานและหันไปทำสิ่งอื่นๆ ที่ชอบแทน อาจไปเล่นเกม หรือรับชมภาพยนตร์ โดยพบว่าโลกโซเชียล (Social Media) อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้หลายคนใช้เวลาในการท่องอินเทอร์เน็ตแทนการทำงาน และนำไปสู่การมีนิสัยผัดวันประกันพรุ่งติดตัวได้มากขึ้น
- การกลัวความล้มเหลวจากการทำงาน คนกลุ่มนี้ชัดเจนว่ามีความมั่นใจในตนเองอยูที่ระดับต่ำ จนส่งผลให้ไม่กล้าลงมือในการทำงาน หรืออีกนัยหนึ่งคืออาจเป็นผู้ที่รักความสมบูรณ์แบบ (Perfectionist) ซึ่งมักตั้งมาตรฐานในการทำสิ่งต่างๆ ไว้สูงลิ่ว จึงคิดว่าไม่มีทางที่จะทำงานได้ดีตามที่หวังไว้ และอาจทำให้เกิดนิสัยผัดวันประกันพรุ่งได้
- เชื่อว่าตนเองจะมีแรงกระตุ้นให้ทำงานได้ดีในสภาวะกดดัน คนกลุ่มนี้มักเลื่อนเวลาออกไปเรื่อยๆ และรอจนใกล้แถบเวลาเส้นยาแดงผ่าแปดจึงจะเริ่มทำงาน
- ไม่สามารถจัดการงานที่ได้รับมอมหมายได้ โดยอาจเกิดจากการขาดทักษะการแก้ไขปัญหา รวมทั้งความยากและจำนวนงานที่มากเกินความสามารถ ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่รู้ว่าควรเริ่มงานอย่างไร และไม่สามารถวางแผนการทำงานได้ จึงเกิดความสับสนและมักเริ่มทำงานที่ง่ายที่สุดก่อนแม้จะมีงานอื่นที่มีกำหนดส่งก่อนก็ตาม
- มีภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) ซึ่งเป็นภาวะของการรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ และหมดแรงจูงใจในการทำงาน ทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จำพวกนี้มักเลื่อนเวลาการทำงานออกไปเพราะรู้สึกหมดพลังและขาดแรงกระตุ้นในการทำงาน
จะปรับปรุงตนเองได้อย่างไรบ้าง?
การปรับพฤติกรรม และเปลี่ยนความคิดหรือทัศนคติในการทำงาน สามารถช่วยให้นิสัยผัดวันประกันพรุ่งดีขึ้นได้ อาจค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้มีกำลงใจในการเปลี่ยนแปลงตนเอง
1. วางแผนการทำงานทุกครั้ง : ในงานใหญ่ จำเป็นต้องวางแผนมากๆ เพื่อให้มีความสม่ำเสมอ และเมื่อสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จะส่งผลให้ตนเองรู้สึกมีคุณค่า ภาคภูทิใจที่สามารถทำงานชิ้นนั้นออกมาได้ดี และเมื่อวางแผนบ่อยครั้งจนเป็นนิสัย จึงทำให้ไม่ต้องพยายามบังคับตนเองให้ลุกมาทำงานอย่างยากลำบากได้เช่นกัน
2. จัดลำดับความสำคัญของงานในแต่ละวัน : งานชิ้นเล็ก-ใหญ่ หรืองานเร่ง บางครั้งเมื่องานเยอะเกินไปอาจขาดการจดจ่อกับงานใดงานหนึ่งได้ ทำให้มีโอกาสผัดวันประกันพรุ่งขึ้นอีก กราจัดลำดับความสำคัญในแต่ละงานสามารถช่วยให้กำหนดเวลาทำงานในแต่ละงานได้
3. จำกัดชั่วโมงในการทำงานแต่ละชิ้น : หากงานเยอะแล้วรู้สึกเหนื่อยล้าจนเกินเหตุและกระทบกับงานส่วนอื่นๆ จึงควรแก่การจัดชั่วโมงการทำงานของงานแต่ละชิ้น เช่น อาจทำงานชิ้นแรก 30 นาที ชิ้นที่สอง 20 นาที เป็นต้นตามความเหมาะสม
4. เลือกสถานที่ทำงานที่ให้สมาธิได้ดี : ในทุกวันนี้มีหลายองค์กรเริ่มมีการทำงานแบบ Hybrid มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องงเข้าออฟฟิศทุกวัน การเลือกที่ทำงานที่เหมาะกับตนเองในการทำงาน สามารถช่วยสร้างสมาธิในการทำงานได้อย่างเต็มที่ โฟกัสกับงานได้ดีมากขึ้น
5. จัดการกับอารมณ์และความรู้สึก : ข้อนี้อาจสำคัญที่สุดเลยกว่าได้ หากรู้ตัว่าตนเองเป็นเช่นไรอยู่ จะทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้นและสามารถจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกตนเองได้ เช่น หากรู้สึกหงุดหงิดหรือรำคาญ อาจต้องมองหาคุณค่าหรือข้อดีในการทำงานนั้นๆ เพื่อไม่ให้รู้สึกเบื่อหน่ายกับการทำงาน
ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น การผัดวันประกันพรุ่งเป็นพฤติกรรมที่สามารถแก้ไขได้ หากแต่ละคนรู้เท่าทันสาเหตุและมีวิธีรับมือที่เหมาะสม การเริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ และมีวินัยในการทำงาน จะช่วยให้สามารถจัดการกับนิสัยนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยเหตุนี้ อย่าปล่อยให้การผัดวันประกันพรุ่งมาขโมยโอกาสและความสำเร็จไปได้
ทำให้ดี ตั้งแต่วันนี้ครับ
Reference
1 : BrainyQuote. (n.d.). Napoleon Hill Quotes. Napoleon Hill - Procrastination is the bad habit of...
2 : รวิศ หาญอุตสาหะ. (2563). Superproductive (พิมพ์ครั้งที่ 12). สำนักพิมพ์ KOOB
3 : PobPad. (ม.ป.ป.). ผัดวันประกันพรุ่ง เทคนิคเปลี่ยนนิสัยให้เริ่มทำเดี๋ยวนี้. ผัดวันประกันพรุ่ง เทคนิคเปลี่ยนนิสัยให้เริ่มทำเดี๋ยวนี้ - พบแพทย์
4 : นาถวีณา ดำรงพิพัฒน์สกุล. (ม.ป.ป.). How to หยุดนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง. โรงพยาบาลมนารมย์. How to หยุดนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง
5 : Humanica. (3 กุมภาพันธ์ 2023). เทคนิคเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง เปลี่ยนให้คุณเป็นคนใหม่. เทคนิคเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง เปลี่ยนให้คุณเป็นคนใหม่ - Humanica
Categories
Hashtags