Digital Etiquette : มารยาทในโลกดิจิทัลที่ทุกคนควรรู้
Published: 24 June 2025
0 views

Digital Etiquette : มารยาทในโลกดิจิทัลที่ทุกคนควรรู้


“Don't say anything online that you wouldn't want plastered on a billboard with your face on it.”

“อย่าพูดอะไรบนออนไลน์ที่คุณไม่อยากให้ติดป้ายบิลบอร์ดพร้อมหน้าคุณ”

— Erin Bury

 

           ในยุคปัจจุบัน โซเชียลมีเดียได้ให้แต่ละปัจเจกชนมีแพลตฟอร์มในการจะออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้ตามใจนึก และยังมีการเข้าถึงอีกเป็นจำนวนมากผ่านคนที่เข้ามาไถฟีดแล้วเห็นโพสต์ของใครบางคน ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อคนๆ หนึ่งเข้ากับผู้คนทั่วโลก

           โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทุกวันนี้ที่เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การทำงาน หรือการเรียนรู้ผ่านหน้าจอ ความสามารถในการใช้อุปกรณ์ไอทีย่อมไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีเรื่องของคุณธรรม จรรยา มารยาท ในการใช้โลกดิจิทัลด้วย หรือที่เรียกกันว่า “Digital Etiquette” เพื่อให้การใช้เทคโนโลยีเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ สุภาพ และเคารพซึ่งกันและกัน

           และจากบริบททั้งของทางโลกและของสยามประเทศ ที่เปลี่ยนไป อันเป็นผลมาจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยียุคดิจิทัลและการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเหล่านี้ ส่งผลต่อพฤติกรรมการสร้างการใช้ และการสื่อสารสารสนเทศของคนในสังคม อันได้แก่ การนำสารสนเทศดิจิทัลมาใช้เรียบเรียงโดยการดัดแปลงการทำสำเนารูปแบบต่างๆ จากนั้นก็แบ่งปันโดยการออกมาโพสต์เผยแพร่สื่อเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยากทั้งที่บ้านหรือที่ไหนก็ตาม โดยสังคมมักคาดหวังว่าผู้ทำกิจกรรมดังกล่าวควรทราบว่าต้องกระทำภายใต้กฎหมาย รวมถึงมีการพิจารณาไต่ตรองในเรื่องความเหมาะสมต่างๆ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่แต่ละคนจำเป็นจะต้องทราบเกี่ยวกับการรู้เท่าทันสื่อ และนอกเหนือจากการรู้เรื่องดิจิทัลแล้ว สิ่งสำคัญในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการมีปฏิสัมพันธ์ในพื้นที่สังคมออนไลน์นั่นคือ “มารยาทดิจิทัล” ซึ่งนับว่าเป็นแนวทางสำคัญในกาใช้พื้นที่สังคมออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ และจะช่วยส่งผลให้เกิดการกระทำผิดในสังคมออนไลน์ลดลง และทำให้สังคมออนไลน์ในยุคหลังดิจิทัลมีเสถียรภาพ และเหมาะสมกับพลเมืองโลกในอนาคต

           ด้วยเหตุนี้ มารยาทดิจิทัล (Digital Etiquette) เป็นมารตฐานความประพฤติทางสังคมออนไลน์ที่เป็นที่ยอมรับ เป็นบรรทัดฐานของการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล การมีส่วนร่วมทางออนไลน์ และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่นในโลกเสมือนจริง มารยาทนี้ช่วยให้เกิดพฤติกรรมที่เหมาะสม การกระทำหรือขั้นตอนการใช้เทคโนโลยีในห้องเรียนและให้ความรู้แก่นักเรียนโดยพิจารณาถึงการแยกส่วนของการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมและขาดความรับผิดชอบอื่นๆ อาทิ มารยาทที่ช่วยให้นักเรียนรับรู้ว่าควรเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในโหมดเงียบในห้องเรียน เช่นเดียวกับการไม่รบกวนการสอนและการเรียนรู้ที่กำลังดำเนินอยู่ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติ จะเป็นการสอนพวกเขาเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ใช้ออนไลน์รายอื่นด้วยความเคารพและสุภาพ ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว

 

หากขาดมารยาททางดิจิทัล?

           บางครั้งการขาดมารยาททางดิจิทัล อาจนำไปสู่ความรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อผู้ถูกกระทำ การใช้วาจาที่แสดงถึงอคติต่อกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ทางสังคมในแง่ใดแง่หนึ่งด้วยคำหยาบคาย อาจเกินเลยจนกลายเป็นการใช้วาจาแสดงความเกลียดชังทางออนไลน์

และในหลายกรณี ผู้ใช้งานบางคนไม่ค่อยเคารพต่อมารยาทในโลกออนไลน์และกฎหมายในชีวิตจริง มักอาศัยความเป็นสื่อใหม่ของอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะนิรนาม (Anonymity) สามารถปกปิดตัวตนในโลกออนไลน์ จึงแสดงพฤติกรรมโดยเจตนาที่จะคุกคามหรือกลั่นแกล้ง ทำลายชื่อเสียงของผู้ใช้งานคนอื่นจนมีผลกระทบร้ายแรงในชีวิต เช่น การกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ (Cyberbullying) การสวมรอยบัญชีผู้ใช้งานผู้อื่น (Impersonation) และการโจกรรมไซเบอร์ (Hacking) เป็นต้น  

 

ว่าด้วยมารยาททางดิจิทัลที่ควรรู้

           ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกคนควรได้เรียนรู้มารยาทแขนงนี้ เพราะทุกคนควรมีมารยาทในการติดต่อสื่อสารในโลกไซเบอร์ที่มีความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมเพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองดิจิทัลที่ดี ซึ่งมีคำแนะนำ 5 ข้อ ดังนี้

           1. ปฏิบัติต่อผู้อื่น เหมือนที่ต้องการให้เขาปฏิบัติต่อเรา : ในการสื่อสารออนไลน์ ให้ยึดมาตรฐานความประพฤติเดียวกับการสื่อสารในชีวิตจริง ก็คือ “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” สิ่งใดที่ไม่ควรทำในโลกจริง สิ่งนั้นก็ไม่ควรให้มีในโลกออนไลน์ด้วย

           2. โพสต์แต่ข้อความที่ดีและเป็นความจริง : สิ่งใดที่ไม่กล้าพูดต่อหน้า สิ่งนั้นก็ย่อมไม่ควรพูดในโลกออนไลน์ ไม่ใช้คำหยาบ ข้อความเสียดสี ไม่ส่งข้อความ หรือภาพลามกอนาจารให้ผู้อื่น ไม่ส่งข้อความหลอกลวงหรือข่าวปลอม ไม่กลั่นแกล้งผู้อื่นบนโลกไซเบอร์ และระมัดระวังการโพสต์ที่อาจมีปัญหาตามมาในอนาคต ทั้งกับตนเอง ครอบครัว สถานศึกษา หรือสถานประกอบการ

           3. คิดก่อนคลิก : ตรวจสอบข้อความซ้ำอีกครั้งก่อนส่ง ไม่ต้องรีบร้อนส่งหรือแชร์โพสต์ หลีกเลี่ยงการโพสต์สเตตัสคำหยาบคายที่เขียนโทษผู้อื่น ใช้ภาษาสุภาพ และควรให้ถูกหลักไวยากรณ์

           4. รักษาข้อมลส่วนตัวของเพื่อและผู้ใช้งานอื่น : เมื่อเพื่อน คือคนที่เราไว้วางใจ จึงนับเป็นมารยาทที่ดีหากเราจะไม่แบ่งปันข้อมูลส่วนตัวของเพื่อน ส่งต่อรูป หรือเรื่องราวที่อาจทำให้เพื่อนต้องอับอายโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการเข้าไปแฮ็กข้อมูลส่วนตัว ที่นอกจากจะผิดมารยาทแล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วย

           5. หลีกเลี่ยงการโต้ตอบโดยใช้อารมณ์บนโลกไซเบอร์ : เคารพความเห็นต่าง ไม่ใช้ภาษาที่ก่อให้เกิดการแตกแตกหรือเสียดสี หลีกเลี่ยงสงครามแห่งการโต้แย้งทีไม่รู้จบ เน้นการอภิปรายอย่างมีเหตุผล ให้อภัยในความผิดของผู้อื่น หากต้องการแจ้งผู้ที่ทำผิดก็ควรบอกอย่างสุภาพและเป็นส่วนตัว

 

           จากที่กล่าวมาทั้งหมด สามารถเข้าใจได้ว่า Digital Etiquette ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรฝึกฝนควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยี เมื่อเราทุกคนมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมดิจิทัลของตนเอง เราจะช่วยสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย สุภาพ และน่าอยู่ยิ่งขึ้น

 

 

 

Reference

1 : Ashlee Melissa du Plessis. (20 February 2020). "Don’t say anything online that you wouldn’t want plastered on a billboard with your face on it.”. Linkedin. "Don’t say anything online that you wouldn’t want plastered on a billboard with your face on it.”

2 : ชรินทร์ มั่งคั่ง, นิติกร แก้วปัญญา. (2565). การบ่มเพาะมารยาทดิจิทัล: วิธีสอนออนไลน์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็น พลเมืองก้าวหน้าในห้องเรียนสังคมศึกษาเสมือนจริง. วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย, 6(1). 204-214. การบ่มเพาะมารยาทดิจิทัล: วิธีสอนออนไลน์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นพลเมืองก้าวหน้าในห้องเรียนสังคมศึกษาเสมือนจริง | วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย

3 : สรานนท์ อินทนนท์. (2563). ทักษะการเอาใจเขามาใส่ใจเราทางดิจิทัล (พิมพ์ครั้งที่ 2). มูลนิธิส่งเสริมสื่อเด็กและเยาวชน.

 


Categories

Hashtags

Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...