Curiosity & Learning Agility – ความใฝ่รู้และความสามารถในการเรียนรู้เร็ว

“An organization’s ability to learn, and translate that learning into action rapidly, is the ultimate competitive advantage

"ความสามารถขององค์กรในการเรียนรู้ และแปลงสิ่งที่เรียนรู้นั้นไปสู่การกระทำอย่างรวดเร็ว คือข้อได้เปรียบสูงสุดทางการแข่งขัน"

– Jack Welch

           ในโลกที่หมุนอย่างรวดเร็วขึ้นทุกวันนี้ ความรู้และทักษะที่เคยใช้ได้ผลในเมื่อวันก่อน อาจกลายเป็นสิ่งล้าสมัยในวันนี้ ดังกล่าวจึงนับเป็นหนึ่งในเหตุผลที่มีความสำคัญสำหรับแต่ละองค์กร หน่วยงาน หรือสถาบันการศึกษาที่ต่างคนมักพูดถึงทักษะที่มองว่าเป็น “หัวใจ” ของการเอาตัวรอดและเติบโตในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็คือ Curiosity (ความใฝ่รู้) และ Learning Agility (ความสามารถในการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว)

           ดังที่กล่าวไปข้างต้น เป็นเพราะความใฝ่รู้นั้นเป็นสิ่งที่สามารถผลักดันให้บุคคลมีความตื่นตัวที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ ทำให้สามารถปรับตัวและพัฒนาตนเองให้ก้าวทันโลก ซึ่งในระดับนานาชาติที่ประสบความสำเร็จด้านการศึกษา ก็ล้วนแล้วให้ความสำคัญในการพัฒนาความใฝ่รู้ทั้งสิ้น โดยที่ประเทศไทยเองก็มีการให้ความสำคัญกับการสร้างความใฝ่รู้เช่นเดียวกัน ดังที่มีปรากฏในกรอบแนวทางการปฏิรูปกาศึกษาในทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) ที่มุ่งเน้นการจัดการศึกษาโดยให้ผู้เรียนได้รู้จักการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนสัญชาติไทยในปัจจุบันได้มีความรอบรู้ทันโลก และสามารถพัฒนาตนเองได้ตลอดชีวิต

ความใฝ่รู้ จุดเริ่มต้นของการเติบโต

         ว่าด้วยความใฝ่รู้ คือแรงผลักดันภายในที่ทำให้มนุษย์ต้องการสำรวจโลก เรียนรู้สิง่ใหม่ๆ และตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น “ทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้น?” หรือ “มีวิธีที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ใครก็ตามที่ใฝ่รู้สูงมักไม่หยุดอยู่แค่ความรู้เดิมๆ แต่พร้อมจะขุดลึก เรียนรู้ และมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งในสถานประกอบการ ทักษะความใฝ่รู้นี้ กลายเป็นพลังสำคัญที่ทำให้พนักงานสามารถปรับตัวและริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ได้ อาทิ พนักงานเริ่มตั้งคำถามกับกระบวนการทำงานเดิม อาจค้นพบวิธีใหม่ที่น่าจะช่วยให้ทีมของตัวเองทำงานได้เร็วมากขึ้น หรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความใฝ่รู้ยังช่วยกระตุ้นให้คนทำงานมีแรงจูงใจในการพัฒนาตัวเอง โดยไม่ต้องรอให้หัวหน้างานมาคอยดันอยู่ตลอด

           ลักษณะของบุคคลที่มีความใฝ่รู้สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมของบุคคลเมื่อเผชิญกับสิ่งเร้าใหม่ที่ท้าทายความรู้เดิมของตน โดยบุคคลที่มีความใฝ่รู้จะแสดงความสนใจที่จะเรียนรู้โดยการตั้งข้อสงสัยเมื่อเผชิญสิ่งเร้าใหม่ที่ต่างจากความรู้เดิมของตน และพยายามแสวงหาคำตอบให้ตนเองจนกว่าจะเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ซึ่งสังเกตได้จากบุคคลเหล่านี้ว่าจะไม่รีบลงข้อสรุป แต่จะตั้งคำถามและค้นคำตอบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพึงพอใจ เพราะพวกเขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่คำตอบ แต่ต้องการทำความเข้าใจข้อความรู้นั้นอย่างลึกซึ้ง

ว่าด้วยความสามารถในการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว

           หากความใฝ่รู้คือ “เชื้อเพลิง” การเรียนรู้อย่างรวดเร็วก็คือ “เครื่องยนต์” ที่เปลี่ยนแค่ความสงสัยลอยๆ ให้กลายมาเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง เรื่องการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว สามารถกล่าวได้ว่า เป็นความสามารถในการเรียนรู้จากประสบการณ์ การปรับตัว และนำสิ่งที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยเหตุนี้ ผู้ใดก็ตามที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วนั้น มักจะมีความกล้าในการเผชิญความล้มเหลว และมองว่าความผิดพลาด คือ “ครู” ที่คอยพร่ำสอนให้เขาเติบโตขึ้น เป็นความกล้าที่จะออกจาก Comfort Zone พร้อมรับความรู้ใหม่ๆ แม้ยังไม่มีความเชี่ยวชาญก็ตาม และสามารถดึงประสบการณ์จากบริบทหนึ่งไปใช้กับอีกบริบทหนึ่งได้อย่างสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น นักการตลาด ที่เคยทำงานในอุตสาหกรรมอาหาร แต่สามารถนำวิธีคิดจากงานเก่า มาใช้กับธุรกิจเทคโนโลยีได้สำเร็จ

เกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องนี้ หากผู้อ่านสนใจอยากค้นคว้ามากขึ้น เราขอแนะนำหนังสือ Mindset: The New Psychology of Success ของ Carol S. Dweck เป็นการต่อยอดความสงสัยใครรู้ของแต่ละบุคคลมากขึ้น [สามารถสืบค้นได้ที่นี่]

จะพัฒนาตนเองอย่างไรได้บ้าง

           อาจไม่ได้มีแนวทางอย่างตายตัวมากนักสำหรับขึ้นตอนการพัฒนาตนเองในทักษะนี้ แต่เราจะกล่าวถึงในบริบทกว้างๆ ไว้เพื่อให้ผู้อ่านพอจับต้นชนปลายและเริ่มต้นถูก

           1. ตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว : แทนที่จะยอมรับไปหมดเลยทุกสิ่งอย่าง ลองถามว่า “ทำไม” หรือ “มีวิธีทีดีกว่านี้ไหม” หากลองหมดทุกอย่างแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องเสียดาย

           2. ทดลองสิ่งใหม่ๆ : ไม่ต้องรอให้เชี่ยวชาญ เริ่มจากการลองสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น ลองใช้เครื่องมือใหม่ หรืออ่านบทความนอกสายงานที่ตนเองมีความถนัดเป็นทุนเดิม นับเป็นการต่อยอดความรู้ใหม่มากขึ้น

           3. ยอมรับความล้มเหลว : เรียนรู้จากประสบการณ์ ไม่ตีตัวเอง แต่ใช้ข้อผิดพลาดเป็นข้อมูลในการปรับปรุงให้เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้น

           จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ความใฝ่รู้ และการเรียนรู้อย่ารวดเร็ว  ไม่ใช่แค่ “ของดี” แต่เป็น “ของจำเป็น” สำหรับทั้งคนทำงานและองค์กรในยุคที่ไม่มีอไรแน่นอน คนที่อยากอยู่รอดและเติบโต ต้องพร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดสงสัย เพราะบางครั้ง คำถามง่ายๆ เช่น “ทำไมต้องทำแบบนั้น/แบบนี้” อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

           ลองดูกันนะครับ

Reference

1 : Brainy Quote. (n.d.). Jack Welch Quotes. Jack Welch - An organization's ability to learn, and...

2 : ศรัณย์พร ยินดีสุข. (2561). การวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความใฝ่รู้และแนวทางในการพัฒนาความใฝ่รู้ของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษา. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 46(2). 180-196. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDUCU/article/download/131862/98995/

3 : Kriengsak N. (9 September 2024). Learning Agility ความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวเร็ว. TheCoach. Learning Agility ความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวเร็ว – TheCoach

4 : LHH Thailand. (23 June 2025). Learning Agility คืออะไร? ความลับของผู้นำที่ประสบความสำเร็จในยุคใหม่. Learning Agility คืออะไร? ความลับของผู้นำที่ประสบความสำเร็จในยุคใหม่ - LHH