Biotechnology: วิทยาศาสตร์ที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด
Published: 27 October 2025
3 views

Biotechnology:

วิทยาศาสตร์ที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด

 

“I still think the power of the market should be in full play. But I also think the option to access bioengineering capacities can be a safeguard against being exploited.”

“ผมยังคงเชื่อว่าพลังของกลไกตลาดควรปล่อยให้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็เชื่อว่า การเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงศักยภาพของเทคโนโลยีชีววิศวกรรมได้ จะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เราถูกเอาเปรียบได้เช่นกัน”

— Drew Endy

 

           ยุคสมันใหม่นี้ การตลาดนั้นสำคัญ (ถึงสำคัญมากๆ) แต่ ดรูว์ แอนดี้ กำลังพูดถึงแนวคิดเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างการตลาดเสรีในยุคนี้กับการเข้าถึงเทคโนโลยี เขาเห็นด้วยว่า ถ้าเทคโนโลยีชีวภาพ (Bioengineering) มีการผูกขาดกันอยู่แคไม่กี่บริษัท จะส่งผลให้มนุษย์ส่วนใหญ่จะกลายเป็นผู้บริโภคที่ถูก “ควบคุม” มากกว่าการเป็น “ผู้ร่วมสร้าง”

           อ่านย่อหน้าด้านบนแล้วงงแน่นอนครับ เพราะคนทั่วไปไม่รู้เลยว่า Bioengineering หรือ BioTecnology คืออะไร บทความนี้จะพามาทำความรู้จักเพื่อเป็นความรู้ให้กับผู้อ่านครับ และถ้ารู้แล้ว ถือเป็นการเปิดโลกอีกบานเลยก็ว่าได้

           เมื่อพูดคำว่า Biotechnology เริ่มแรกจะคิดว่าเป็นห้องแลบที่ซับซ้อน เต็มไปด้วยหลอดทดลอง เครื่องมือไฮเทค หรือภาพนักวิทยาศาสตร์ในชุดขาวกำลังส่องกล้องจุลทรรศน์อย่างเอาจริงเอาจัง แล้วเมื่อพูดเรื่องพวกนี้ แน่นอนว่าดูจะเป็นเรื่องไกลตัวเสียเหลือเกิน แต่อันที่จริงแล้ว “เทคโนโลยีชีวภาพ” อยู่รอบตัวเรามากกว่าที่เราคิด และอยู่มานานมากๆ แล้วด้วย รวมถึงยังเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันโดยที่เราแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

           เริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆ ที่สุดในครัวของเรา ไล่ตั้งแต่ ขนมปัง นมเปรี้ยว (จะแบรนด์อะไรก็ตาม) น้ำปลา หรือ โยเกิร์ต สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากกระบวนการหมัก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชีวภาพแบบดั้งเดิมที่มนุษย์ใช้กันมานานหลายพันปีแล้ว ซึ่งมักใช้จุลินทรีย์มาประกอบ เช่น ยีสต์และแบคทีเรีย ในการเปลี่ยนสารดิบๆ ให้กลายเป็นเมนูแสนอร่อย เก็บได้นาน และมีประโยชน์ต่อร่างกาย กรรมวิธีดังกล่าวนี้แหละที่เรียกว่า “Biotech” ในรูปแบบพื้นบ้านที่เกิดขึ้นในครัวเรือนทั่วไป

           แต่แน่นอนว่า เทคโนโลยีชีวภาพในยุคปัจจุบันก้าวไปไกลกว่านั้นมาก เราไม่ได้แค่หมักอาหารอีกต่อไป แต่ใช้ความรู้ทางชีววิทยาและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาสร้างนวัตกรรมที่ไม่เหมือนเดิม ซึ่งช่วยให้ใช้ชิตง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และยั่งยืนขึ้น ตั้งแต่วงการแพทย์ การเกษตร อาหาร พลังงาน ไปจนถึงสิ่งแวดล้อม

 

Biotech กับสุขภาพและการแพทย์

           หนึ่งในด้านที่เห็นค่อนข้างชัด ก็คือหมวดการแพทย์และสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพได้เปิดทางให้เราสามารถรักษาโรคได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น การผลิตวัคซีนแบบ mRNA ที่เราเห็นกันในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ซึ่งเป็นผลลัพธ์ตรงจากงานวิจัยด้าน Biotechnology หรืออีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ ชุดตรวจสุขภาพแบบรวดเร็ว (Rapid Test) ไม่ว่าจะที่ใช้ตรวจโควิด ตรวจไข้เลือดออก หรือตรวจ DNA เพื่อสำรวจเชื้อหรือระบุสายพันธุ์ สิ่งเหล่านี้ล้วนใช้หลักการทางชีววิทยาโมเลกุล ที่ทำให้เราสามารถตรวจโรคได้ในไม่กี่นาทีโดยไม่ต้องเข้าแลบใหญ่ๆ

 

Biotech กับอาหารและการเกษตร

           วลีที่ว่า “ข้าวโพดต้านแมลง” หรือ “ข้าวทองคำ” เหล่านี้คือตัวอย่างของพืชที่ถูกพัฒนาโดยเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อให้สามารถทนต่อโรค ทนต่อแล้ง หรือมีคุณคาทางอาหารสูงขึ้น เช่น “ข้าวทองคำ” ที่ถูกตัดต่อให้มีเบต้าแคโรทีนมากขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดวิตามินเอในเด็กบางประเทศ

           ไม่เพียงแค่นั้น เทคโนโลยีชีวภาพยังเข้ามาช่วย “เกษตรกรยุคใหม่” ในการพัฒนาปุ๋ยชีวภาพ ยาฆ่าแมลงชีวภาพ หรือแม้แต่การวิเคราะห์พันธุ์พืชและดินด้วยข้อมูล DNA เพื่อคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ให้ผลผลิตดีและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ช่วยลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

 

Biotech กับสิ่งแวดล้อมและพลังงาน

           การทำเรื่อง Biotech มาช่วยในเรื่องการ “รักษาโลก” เช่น การใช้แบคทีเรียกินน้ำมันเพื่อลดมลพิษจากคราบน้ำมันในทะเล การใช้เอนไซม์ย่อยสลายขยะพลาสติก หรือการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพจากพืชหรือของเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งสามารถลดการพึ่งพาน้ำมันจากฟอสซิลได้จริง

           ในอนาคต เราอาจได้เห็น “พลากสติกชีวภาพ” ที่ย่อยสลายได้เองภายในไม่กี่เดือนแทนที่พลาสติกทั่วๆ ไปได้ในอนาคต

 

           จากที่ยกตัวอย่างมาคร่าวๆ ให้เห็นว่าในแต่ละวงการมีอะไรเด่นๆ เราจะพบว่า Biotech ไม่ได้จำกัดอยู่แค่งานวิจัยหรือบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น แต่มันคือสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน ตั้งแต่แชมพูที่ใช้เอนไซม์สกัดจากธรรมชาติ ไปจนถึงผักผลไม้ที่ปลอดสารพิษเพราะใช้ชีวภัณฑ์แทนสารเคมี เทคโนโลยีชีวภาพกำลังกลายเป็นหนึ่งในทักษะที่หลายคนเริ่มสนใจความรู้แขนงนี้ ไม่ว่าเด็กเรียนสายวิทย์ เกตรกรรุ่นใหม่ หรือนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะการทำความเข้าใจพื้นฐานของ Biotech นั้น คือการเข้าใจซึ่ง “ธรรมชาติที่เราใช้เทคโนโลยีมาผนวกร่วม”

           เรื่องของเทคโนโลยีชีวภาพ อาจเริ่มจากสิ่งเล็กๆ อย่างยีสต์ในขนมปัง แต่วันนี้มันได้กลายมาเป็นหัวใจของนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกในหลายๆด้าน เมื่อเราเข้าใจว่าสิ่งนี้คือการใช้ “ธรรมชาติมาช่วยชีวิต” เราจะเห็นว่า Biotech ไม่ได้เป้นแค่เรื่องของนักวิทย์ในห้องแล็บอย่างเดียว แต่มันคือ เรื่องของเราทุกคน ที่กำลังมีส่วนร่วมอยู่ในทุกวัน

 

 

Reference

1 : Hanae Armitage. (14 October 2021). How Synthetic Biology Could Save Us. Stanford Medicine. Aiming bioengineering toward benefiting society | Stanford Medicine

2 : SP CE. (n.d.). Medtech vs Pharma vs Biotech vs Health Tech. Medtech vs Pharma vs Biotech vs Health tech - SP_CE

3 : พักตร์ จันทร์สว่างกูล. (ม.ป.ป.). เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) และเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร (Agricultural Biotechnology) คือ อะไร ?. Kasetsart University Kamphaeng Saen Campus. สาขาเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะเกษตร กำแพงแสน

4 : สวก.. (ม.ป.ป.). เทคโนโลยีชีวภาพคืออะไร สำคัญอย่างไร และมีอะไรที่ควรรู้?. เทคโนโลยีชีวภาพคืออะไร สำคัญอย่างไร และมีอะไรที่ควรรู้?

 

 


Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...