24 ชั่วโมง ปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อลดการใช้พลังงานแบบเข้าใจง่าย
ในวัน ๆ หนึ่งของแต่ละคน เราต่างใช้พลังงานมากกว่าที่คิดไว้ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าที่ทำให้บ้านสว่าง การชาร์จมือถือ การทำอาหาร ตลอดไปจนถึงการเดินทางไปทำมาหากินเลี้ยงชีพ พลังงานเหล่านี้โดยมากแล้วมาจากแหล่งที่ปลดปล่อยคาร์บอน อาทิ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ หรือปิโตรเลียม ด้วยเหตุนี้ พฤติกรรมเล็ก ๆ ที่เราอาจทำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง จึงมีผลต่อปริมาณพลังงานที่ใช้ และส่งผลต่อโลกโดยตรง
บทความชิ้นนี้จึงจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับวิธีง่าย ๆ ที่จะประหยัดไฟ ลดคาร์บอน และไม่ทำให้ชีวิตประสบความยุ่งยาก ลองมาดู “กิจวัตรหนึ่งวันฉบับประหยัดพลังงาน” กันครับ
ช่วงเช้า 6.00-9.00 เริ่มวันแบบเซฟ ๆ
ว่ากันที่เปิดหัววันใหม่ หากเริ่มวันได้ดี ก็อาจมีชัยไปกว่าครึ่งในวันนั้น หากเริ่มวันได้ไม่สวย ก็อาจพาความขื่นขมมาให้จนตะวันตกดิน ทีนี้เราอาจเริ่มวันห้วยการประหยัดพลังงานด้วยด้วยการ...
1. ใช้แสงธรรมชาติให้เต็มที่ : แทนที่จะเปิดไฟทันทีหลังจากตื่นนอน ลองเปิดม่านหรือหน้าต่างแทน เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา ไม่เพียงช่วยประหยัดไฟ แต่ยังช่วยให้ร่างกายได้ปรับตัวตามนาฬิกาชีวภาพได้อีกด้วย
2. ปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน : เครื่องใช้หลายชนิด เช่น ทีวี เครื่องปรับอากาศ หรือปลั๊กพ่วงบางรุ่น อาจยังคงกินไฟแม้ไม่ได้ใช้งาน หากพอจะมีเวลาสัก 5 วินาทีก่อนจะออกจากบ้าน ลองเดินเช็กให้แน่ใจว่าปิดแล้วจริง ๆ ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจากการสิ้นเปลืองพลังงานได้มากในระยะยาว
3. อาบน้ำสั้นลง - ปรับอุณหภูมิอย่างเหมาะสม : หากว่าเป็นผู้ใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ควรตั้งอุณหภูมิไม่ให้เกินความจำเป็น และจำกัดเวลาอาบให้สั้นลงสัก 1-2 นาที ก็ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากโดยไม่กระทบความสบายตัว
ช่วงออกนอกบ้าน 9.00-17.00 ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า (ไฟ)
1. เดิน-ปั่น-แชร์รถกัน หากทำได้ : หากว่าระยะทางไม่ได้ไกล การเดินหรือปั่นจักรยานช่วยลดคาร์บอนและดีต่อสุขภาพ ถ้าหากต้องเดินทางไกล ใช้ขนส่งสาธารณะหรือแชร์รถกับคนรู้จักก็พอจะช่วยลดการใช้พลังงานในภาพรวมไปได้ค่อนข้างมาก
2. ลดการชาร์จซ้ำ ๆ โดยไม่จำเป็น : โทรศัพท์หรือโน๊ตบุ๊ก ที่บางทีชาร์จค้างทิ้งไว้ สิ่งนี้นอกจากจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมแล้ว ยังทำให้เปลืองไฟโดยไม่จำเป็น ลองสร้างนิสัยชาร์จเฉพาะตอนเช้าหรือระหว่างเดินทางสั้น ๆ แล้วถอดปลั๊กทันทีเมื่อแบตเตอรี่เต็ม
3. ทำงานอย่างประหยัดไฟ ในออฟฟิศ : ทำได้หลายวิธี เช่น ปิดหน้าจอคอมเมื่อไม่ได้ใช้งาน ลดความสว่างของหน้าจอลง หรือเลือกโหมดประหยัดพลังงาน เหล่านี้ฟังดูเล็กน้อย แต่ท่านผู้อ่านลองมโนภาพทัศน์ตามว่าหากทั้งบริษัทลดความสว่างของหน้าจอลง ค่าไฟแลจะลดลงมหาศาลมาก
4. พกกระติกน้ำส่วนตัว : เครื่องทำน้ำเย็น-น้ำร้อน ตามสำนักงานกินไฟต่อเนื่อง ก็ให้ใช้งานได้ตามความสมควร และเป็นการลดการซื้อน้ำขวดพลาสติกอีกด้วย
ช่วงเย็น 17.00-21.00 ช่วงที่ควรจัดการให้ดี
1. จัดบ้านให้ลมไหลเวียน ลดการพึ่งพาแอร์ : การเปิดหน้าต่างสองด้านช่วยให้อากาศถ่ายเท หากยังต้องใช้แอร์ เป็นไปได้ให้ตั้งอุณภูมิที่ 26 องศา เปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็น เท่านี้เครื่องปรับอากาศก็จะไม่ทำงานหนักจนเกินไป
2. ดูแลตู้เย็นอย่างถูกวิธี : ตู้เย็น คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูงที่สุดอย่างหนึ่ง สิ่งช่วยชีวิตตู้เย็นนั้นทำได้ไม่ยาก เช่น ปิดให้สนิททุกครั้ง ไม่อัดของจนแน่น ตั้งอุณหภูมิระดับปานกลาง ละลายน้ำแข็งเมื่อหนาขึ้น เท่านี้ก็ช่วยประหยัดไฟและยืดอายุตู้เย็นไปอีกพอสมควร
3. ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบรวมงาน : เช่น เปิดทีวีเฉพาะเวลาที่ดูจริง ๆ หรือซักผ้าเฉพาะเมื่อรวมผ้าได้เต็มถัง วิธีนี้ช่วยลดการใช้ไฟและยืดอายุเครื่องใช้ไปพร้อม ๆ กัน
ทำไปการเปลี่ยนนิสัยในหนึ่งวันจึงสำคัญ?
กล่าวคือ การประหยัดพลังงานไม่ใช่แค่เรื่องค่าไฟฟ้า แต่เป็นเรื่องของ “การใช้ทรัพยากรของโลกอย่างรับผิดชอบ” หากทุกคนปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ เพียงวันละ 2-3 อย่าง ก็เทียบเท่าการลดคาร์บอนจำนวนมากในแต่ละปี และเมื่อทั้งสังคมร่วมแรงร่วมใจ ผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งชัดเจนมากขึ้น
ประหยัดพลังงานไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก ไม่ต้องลงทุนเยอะ และไม่ต้องเปลี่ยนชีวิตให้มากเรื่อง เพียงแค่รู้ตัวและเลือกทำอย่างมีสติในทุกช่วงของวัน เท่านี้เราก็ช่วยโลกได้มากกว่าที่คิด
Reference
1 : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). 6 วิธีง่าย ๆ อยู่บ้านอย่างไรให้ประหยัดไฟ. 6 วิธีง่าย ๆ อยู่บ้านอย่างไรให้ประหยัดไฟ - การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
2 : กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน. (1 สิงหาคม 2567). ประหยัดพลังงานทำได้ทุกวัน. ประหยัดพลังงานทำได้ทุกวัน
3 : Fortune Town. (23 พฤษภาคม 2023). ค่าไฟแพงขึ้น ทำยังไง? รวม 10 วิธีประหยัดไฟง่าย ๆ และได้ผลดี. ค่าไฟแพงขึ้น ทำยังไง? รวม 10 วิธีประหยัดไฟง่าย ๆ และได้ผลดี
Categories
Hashtags