เป้าหมายชัด ความสำเร็จเกิด: พัฒนาทักษะ Achievement Orientation
"Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. If you love what you are doing, you will be successful."
"ความสำเร็จไม่ใช่กุญแจสู่ความสุข แต่ความสุขต่างหากที่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ หากคุณรักในสิ่งที่ทำ คุณจะประสบความสำเร็จ"
— Albert Schweitzer
ทุกคนล้วนแต่มีความฝันที่จะประสบความสำเร็จ ในบางสิ่งบางอย่างของชีวิต บางคนต้องการมีทรัพย์สิน (หรือสินทรัพย์) ที่มากขึ้น บ้างก็ใฝ่ฝันหาอยากมีหน้ามีตาในหน้าที่การงาน บ้างก็มุ่งมั่นอยากเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ตัวเอง บ้างก็ประงสงค์อยากเป็นผู้ให้ ต้องการมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่น กล่าวคือ ความสำเร็จของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในด้านใดหรือรูปแบบอะไรก็ตาม ล้วนมาพร้อมกับความท้าทายเสมอ ต่างคนต่างมีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่า บางสิ่งบางอย่างที่ดูเหมือนง่าย ที่คนประสบความสำเร็จเขาทำกันเปรียบเสมือนดีดนิ้วแล้วผลลัพธ์ก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่สิ่งที่คนไม่รู้ก็คือเบื้องหลังความสำเร็จของแต่ละคนล้วนผ่านการต่อสู้มาอย่างมากมาย ลองผิดลองถูกนับร้อยนับพันครั้ง ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า เหนื่อยแล้วเหนื่อยกว่าเดิมเสียอีก
ในสังคมปัจจุบัน มนุษย์เราใช้ชีวิตอยู่บนการแข่งขัน ทั้งในด้านการแข่งขันกับตนเอง แข่งขันกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แข่งขันกับเวลา เพื่อให้เกิดความสำเร็จที่ตนเองคาดหวังและปราถนา โดยมีแรงจูงใจเป็นตัวขับเคลื่อนในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ แต่หากการทำงานนั้นขาดแรงจูงใจ งานก็ยากต่อความสำเร็จหรือเกิดความสำเร็จได้ล่าช้า ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีต้องการปลูกฝังผู้เรียนภายใต้นโยบาย KMUTT Generic Competence ให้ความสำคัญต่อสิ่งที่เรียกว่า Achievement Orientation หรือก็คือ แนวโน้ม/ความมุ่งมั่น สู่ความสำเร็จ (ซึ่งผู้อ่านสามารถเข้ามาดูร่ายละเอียดการชี้วัดได้ที่นี่)
จึงเป็นเหตุให้ต้องมีการสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้นภายในตนเอง เพื่อให้มีแรงและมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือเป้าหมายชีวิตของแต่ละคนต่อไป โดยบางครั้งอาจต้องพึ่งพาผู้บริหารหรือหัวหน้างานคอยสังเกตพฤติกรรมของทีมตนเองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ที่ควรระลึกไว้เสมอว่าควรให้คนในทีมมีแรงจูงใจในการทำงาน มีความกระตือรือร้นในการทำงาน การทำงานย่อมประสบความสำเร็จ ในทางตรงกันข้าม ถ้าผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วมงานขาดแรงจูงใจ งานก็ยากต่อการไปสู่ความสำเร็จที่ตั้งไว้ได้ เพราะขาดพลังกายพลังใจในการทำงานเปรี่ยบเสมือนเวลาที่เราต่างเจ็บป่วยทางจิตใจ ต่อให้มียารักษาดีแค่ไหนมารักษา แต่เรากลับไม่ยอมกินมัน ก็ไม่สามารถทำให้ตนเองหายป่วยจากอาการนั้นๆ ได้
ทำอย่างไรให้มีความกระหายนี้นี้ติดตัว?
การจะมีความมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จได้ จำเป้นต้องเป็นผู้ที่มีแรงบันดาลใจเป็นพื้นเดิมของการทำงาน ควรจะจัดลำดับความสำคัญของงาน ตามความสำคัญ การสร้างขอบเขตที่ชัดเจนขึ้น เพื่อปกป้องเวลาและพลังงานของมัน การปรับปรุงกระบาวนการทำงาน หรือการส่งเสริมเรื่อง Work-Life Balance และการดูแลตัวเอง ซึ่ง คุณ Greg McKeown ได้ระบุแนวทางการพัฒนาให้ตัวเองสู่ความมุ่งมั่นไว้ในหนังสืออย่าง Effortless โดยแบ่งเป็น 6 ประเด็นไว้ดังนี้
1. ใช้พลังของความพยายามอย่างมีจุดหมาย
ถือเป็นความสำคัญของการทุ่มเทแรงกายแรงใจไปที่จุดใดให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด แทนที่จะพยายามทำทุกอย่างไปพร้อมกัน เราควรโฟกัสสิ่งสำคัญไม่กี่อย่าง เมื่อจัดลำดับความสำคัญได้ถูกต้อง ย่อมช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยไม่ต้องเผชิญกับความเครียดและความเหนื่อยล้ามากเกินไป
2. ยึดแนวคิด Essentialism
แนวคิดดังกล่าว คือการใช้ชีวิตโดยมีเป้าหมายและการตัดสินใจที่ชัดเจน แทนการปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นตามความเป็นไปของมัน เป็นสนับสนุนให้แต่ละคนประเมินภาระหน้าที่ของตัวเองและตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปอย่างจริงจัง จึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรามุ่งเน้นสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าของแต่ละคนได้ การลงทุนเวลาและพลังงานอย่างชาญฉลาดที่สุด โดยมุ่งเน้นเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีคุณค่ามากที่สุด
3. ทำให้เรื่องซับซ้อนเป็นเรื่องง่าย
ความซับซ้อนมักนำไปสู่ความไม่มีประสิทธิภาพและความสับสน เราควรพยายามทำให้กระบวนการและงานต่างๆ ง่ายขึ้น โดยการแบ่งงานที่ดูยากให้อยู่ในรูปแบบที่จัดการได้ง่ายขึ้น และปรับปรุงขั้นตอนการทำงานให้คล่องตัวขึ้น ซึ่งความชัดเจนและเรียบง่ายจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ
4. ใช้พลังของการพูดว่า “ไม่”
การปฏิเสธเป็นเรื่องที่ให้อิสระแก่เราๆ การตั้งขอบเจตให้ชัดเจน และปฏิเสธโอกาสที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของเราเป็นสิ่งสำคัญ กาเรียนรู้ศิลปะของการพูดคำว่า “ไม่” อย่างสุภาพแต่หนักแน่น เป็นเรื่องที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ช่วยให้เรากลับมาโฟกัสกับงานได้มากและรักษาคำมั่นสัญญาของตนเองต่อเป้าหมายเดิมไว้ได้
5. ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง
หลายครั้งที่แต่ละคนให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงานมากเกินไป จนละเลย การดูแลสุขภาพกายและใจของตัวเอง การดูแลตัวเองไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แต่คือพื้นฐานของความสำเร็จที่ยั่งยืน การให้ความสำคัญกับการพักผ่อน ผ่อนคลาย และเติมพลังให้กับตนเอง จะช่วยให้เรามีแรงทำงานได้อย่างเต็มที่
6. สร้างวัฒนธรรมของความง่ายดาย
ความง่ายดาย ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องของวัฒนธรรมของค์กร ผู้นำที่ดีควรสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นที่สิ่งสำคัญและลดอุปสรรคที่ไม่จำเป็นลง เพื่อให้ทุกคนทำงานอย่างชาญฉลาดกับสิ่งที่สำคัญ แทนที่จะทำงานหนักกับทุกเรื่อง
ตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแนวทางการพัฒนาตนเองไปสู่การมีความมุ่งมั่นในการประสบความสำเร็จ เพื่อช่วยให้แต่ละคนสามารถบรรลุเป้าหมายได้มากขึ้น โดยไม่ต้องเหนื่อยเกินไป การทำแต่ละแนวคิดมาผนวกประยุกต์ใช้ อาจช่วยให้แต่ละคนสามารถปลดล็อคตัวเองได้ และช่วยให้ชีวิตมีประสิทธิภาพ อันเป็นผลไปสู่โอกาสในการประสบความสำเร็จที่มากยิ่งขึ้นครับ
Reference
1 : Boretti, Inc. (25 November 2022). “Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. If you love what you are doing, you will be successful.”. “Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. If you love what you are doing, you will be successful.” - Boretti, Inc.
2 : LifeEnricher. (n.d.). ... 5 วิธี ประสบ ความ สำเร็จ แบบง่าย ๆ .... 5 วิธี ประสบความสำเร็จ แบบง่าย ๆ - LifeEnricher
3 : วิไล พรมดาว. (2563). แรงจูงใจและความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครู, วารสารบริหารการศึกษาบัวบัณฑิต, 20(4). หน้า 49-58. rattanapro,+{$userGroup},+5.+วิจัย+ใน+(2)+49-58.pdf
4 : Iain (Reg) Grundy MSc. (20 May 2024). Mastering Effortlessness: 6 Key Lessons from Greg McKeown's Book "Effortless". Linkedin. Mastering Effortlessness: 6 Key Lessons from Greg McKeown's Book "Effortless"
5 : Greg McKeown. (2021). Effortless. New York: Currency.
Categories
Hashtags