การตลาดในยุคดิจิทัลไม่ได้แข่งขันกันที่ใครเสียงดังที่สุดอีกต่อไป แต่เป็นการแข่งขันกันที่ดูว่าใครเล่าเรื่องได้ดีที่สุด เพราะผู้บริโภคสมัยนี้ไม่ต้องการเพียงสินค้าและบริการ แต่ต้องการประสบการณ์และเรื่องราวที่พวกเขาสามารถเชื่อมโยงได้ เหตุผลที่แบรนด์มากมายหันมาใช้ Storytelling ก็เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มพลังในการสื่อสารกับผู้บริโภค การทำการตลาดตามเทรนด์ไม่ใช่แค่การเกาะกระแส แต่ต้องรู้จักเล่าเรื่องให้เข้ากับเทรนด์นั้น ๆ อย่างแนบเนียน หากแบรนด์สามารถผูกเรื่องราวเข้ากับความรู้สึกหรือความสนใจของลูกค้าได้ ย่อมช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและสร้างความจดจำได้ดีกว่าการขายตรงแบบเดิม ๆ

Storytelling คืออะไร

Storytelling คือ ศิลปะการเล่าเรื่องเพื่อสื่อสารสาระสำคัญ ความคิด หรือคุณค่าที่แบรนด์ต้องการส่งต่อไปยังผู้ฟังหรือผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการเชื่อมโยงทางอารมณ์ ให้ผู้ฟังรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวนั้น ๆ ในการทำการตลาดดิจิทัล Storytelling Marketing คือ วิธีการนำเสนอแบรนด์ผ่านเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นที่มาของแบรนด์ เรื่องราวของลูกค้า หรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สินค้าและบริการ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้แบรนด์ไม่ใช่แค่ขายสินค้า แต่ยังขายความรู้สึกและสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภคไปพร้อมกัน ในแง่ของการสร้างคอนเทนต์ หลายธุรกิจนิยมใช้การเขียน Story Telling บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือโฆษณาออนไลน์ เพื่อสื่อสารแบบไม่ยัดเยียด แต่เล่าเรื่องราวที่ชวนติดตามจนผู้อ่านรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์โดยธรรมชาติ

องค์ประกอบของ Storytelling

การจะทำให้ Storytelling มีพลังและดึงดูดใจ ไม่ใช่เพียงเล่าเรื่องอะไรก็ได้ แต่ต้องมีองค์ประกอบที่ช่วยสร้างอารมณ์ร่วม ดังนี้

1. ตัวละคร (Characters)

ตัวละครคือหัวใจของการเล่าเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ ลูกค้าที่ใช้สินค้า หรือแม้กระทั่งตัวสินค้าเอง ตัวละครที่มีความใกล้เคียงกับผู้ฟังจะช่วยสร้างความรู้สึกอินได้มากขึ้น

2.ความขัดแย้งหรือปัญหา (Conflict)

ทุกเรื่องราวที่ดีต้องมีปัญหาหรือความท้าทาย เช่น ลูกค้าที่เคยเจอปัญหาผิวแพ้ง่ายก่อนจะเจอผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์ หรือธุรกิจที่เจออุปสรรคใหญ่ก่อนจะหาทางแก้ไขได้สำเร็จ

3.การแก้ปัญหา (Resolution)

ตรงนี้คือจุดที่แบรนด์เข้ามามีบทบาท การเล่าว่าสินค้า บริการ หรือแนวคิดของคุณสามารถช่วยแก้ปัญหานั้นได้อย่างไร จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น

4.อารมณ์ (Emotion)

Storytelling ที่ดีต้องกระตุ้นอารมณ์ เช่น ความสุข ความหวัง ความอบอุ่น หรือแรงบันดาลใจ เมื่อผู้บริโภครู้สึกบางอย่างจากเรื่องราว พวกเขาจะจดจำแบรนด์ได้ชัดเจนขึ้น

5.ข้อคิดหรือคุณค่า (Message & Value)

เรื่องราวที่เล่าไม่ควรจบลงเพียงความบันเทิง แต่ควรถ่ายทอดคุณค่าหรือแนวคิดที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ เช่น การใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือการดูแลครอบครัว ซึ่งจะทำให้แบรนด์ดูมีจุดยืนและแตกต่าง

ความเชื่อมโยงของ Storytelling กับการทำการตลาด

การตลาดยุคใหม่ไม่ใช่เพียงการโฆษณาแบบผลักดัน แต่คือการดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามามีส่วนร่วม และ Storytelling คือเครื่องมือสำคัญในการสร้างการดึงดูดนั้น

• สร้างการจดจำแบรนด์ - เรื่องราวที่ดีจะติดอยู่ในใจผู้ฟังได้นานกว่าข้อความขายสั้น ๆ การเล่าเรื่องที่สอดคล้องกับตัวตนแบรนด์ทำให้ผู้คนจดจำและพูดถึงมากขึ้น
• เชื่อมโยงอารมณ์กับผู้บริโภค - ผู้คนมักซื้อสินค้าด้วยอารมณ์มากกว่าตรรกะ หากเรื่องราวสามารถทำให้ผู้บริโภครู้สึกใช่หรือนี่แหละตัวฉัน ก็จะเกิดแรงผลักดันในการตัดสินใจซื้อ
• เพิ่ม Engagement บนโลกออนไลน์ - คอนเทนต์ที่เล่าเรื่องราวมักจะได้รับการแชร์ การคอมเมนต์ และการมีส่วนร่วมมากกว่าโฆษณาตรง ๆ เพราะผู้คนอยากแบ่งปันเรื่องราวที่สะท้อนตัวตนหรือความรู้สึกของพวกเขา
• ขยายผลลัพธ์ของการทำแคมเปญ - การใช้ Storytelling Marketing คือ การทำให้แคมเปญมีชีวิต เรื่องราวที่ดีสามารถต่อยอดไปเป็นวิดีโอ โพสต์ ภาพกราฟิก หรือแม้กระทั่งแคมเปญ Influencer ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างและมีพลังมากขึ้น

แนะนำการทำการตลาดและคอนเทนต์กับ ForeToday

Storytelling ไม่ใช่แค่เทคนิคการเล่าเรื่อง แต่คือหัวใจของการทำการตลาดดิจิทัลที่ช่วยให้แบรนด์มีพลังในการเชื่อมโยงกับผู้บริโภคในเชิงอารมณ์และคุณค่า การเข้าใจว่า Storytelling คืออะไร และสามารถนำไปใช้ได้อย่างไร จะทำให้ธุรกิจของคุณมีความแตกต่างและโดดเด่นในตลาดที่แข่งขันสูง หากคุณคือเจ้าของธุรกิจที่อยากใช้พลังของ Storytelling เพื่อสร้างแบรนด์ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ForeToday พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ทางการตลาดดิจิทัลครบวงจร ที่เข้าใจทั้งกลยุทธ์และการเล่าเรื่องในโลกออนไลน์ ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญทั้งด้าน Creative Content, Graphic, Video Production และ Marketing Consult ForeToday สามารถช่วยคุณออกแบบเรื่องราวที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์และตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์สำหรับ Facebook, TikTok, Instagram หรือการยิงแอดบน Google Ads, TikTok Ads, Shopee Ads และ Line Ads สิ่งที่ทำให้ ForeToday แตกต่างคือการให้บริการที่ครบวงจร ตั้งแต่การวางแผน Storytelling การสร้างสรรค์คอนเทนต์ ไปจนถึงการวิเคราะห์ผลด้วย Realtime Dashboard และ Timeline ชัดเจน เพื่อให้คุณเห็นผลลัพธ์และสามารถปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงที