พิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มจธ. ในปีนี้ ถือว่า มี 2 ครั้ง ในของ 2 ปีการศึกษา ได้แก่ ปีการศึกษา 2566 ที่จัดขึ้นในวันที่ 8 สิงหาคม 2568 และวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 โดยเปลี่ยนสถานที่รับปริญญาบัตรด้วย เป็น หอประชุมกองทัพเรือ ด้วยความที่เป็นสถานที่แห่งใหม่ จึงเกิดหนึ่งงานในความทรงจำของ มจธ. ที่น่าประทับใจ ด้วยการเป็นหนึ่งในของขวัญถวายเป็นกำลังใจแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 และบัณฑิต มจธ. โดยแสดงเป็นคลิปวิดีโอนี้
วิดีทัศน์ต้นแหล่งจาก KMUTT facebook fanpage
แม้ว่าจะได้รับชมย้อนหลังก็ยังอดที่จะรู้สึกซาบซึ้งในใจไม่ได้ ทั้งการรวมตัวกันของคนหลากหลายหน่วยงานภาคส่วนของความร่วมมือใน มจธ. ทั้งความรู้ของการเลือกเพลง การลำดับเพลง การผสมเสียงร้องทำนอง การจัดการของการฝึกซ้อม การทำ MV ประกอบการแสดง และการทำ MV รวมออกมาให้เราได้รับชม สำคัญที่สุดคือ แก่นของการทำงานร่วมกัน เรื่องราวเหล่านี้ทำให้หอสมุดอยากที่จะเข้าไปทำการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเผยแพร่ให้ผู้คนได้รับชมรับรู้ทั่วกัน จึงเป็นที่มาของการสัมภาษณ์เบื้องหลังการทำงาน โดยมีผู้ให้สัมภาษณ์ ได้แก่ อาจารย์สุทธิพงษ์ เรืองจันทร์ สายวิชาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์, นายจีระศักดิ์ ถนัดค้า นักประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานการสื่อสารเชิงกลยุทธ์และการตลาด และนายภูเบศ อินทร์สองใจ ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ดำเนินการสัมภาษณ์โดย คือ นางสาวอารยา ศรีบัวบาน นักบรรณสารสนเทศ สำนักหอสมุด มจธ.
คลิปสัมภาษณ์เต็มเบื้องหลังการแสดงขับร้องฯ, โดย สำนักหอสมุด มจธ.
สรุปและเรียบเรียงเนื้อหาโดย นายประธาน สำราญรัมย์
จุดเริ่มต้นและแนวคิด
อาจารย์สุทธิพงษ์ กล่าวว่า โจทย์ที่ได้รับถือเป็นโจทย์ที่ดี ขณะเดียวกันก็เป็นโจทย์ที่ท้าท้ายเนื่องจากมีระยะเวลาเตรียมงานเพียงสามเดือน และกำลังคนไม่เพียงพอ เพราะชมรมคอรัสที่คณะทำงานต้องการให้มารับบทบาทหลักในการแสดงขับร้องเพลงถวายกำลังใจมีการแสดงเดิมซึ่งเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ทางประธานชมรมจึงเกรงว่าหากต้องเตรียมการขับร้องเพลงถวายกำลังใจเพิ่มจะส่งผลต่อคุณภาพของการแสดงชุดแรกที่ต้องควบคุมให้ได้มาตรฐาน โดยมี Change agent คนสำคัญ คือ นายภูเบศ อินทร์สองใจ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษาและสื่อสารมวลชน คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มาเป็นผู้ผลิตและช่วยควบคุมการแสดงขับร้องเพลงถวายกำลังใจ
นายภูเบศกล่าวว่า หลังรับทราบรายละเอียดโครงการในเดือนตุลาคม ตนได้รวบรวมสมาชิกพร้อมทั้งติดต่อกับชมรมบันเทิงและดนตรีสากล รวมถึงชมรมคอรัส ซึ่งภายหลังชมรมคอรัสเมื่อทราบว่าการแสดงขับร้องเพลงถวายกำลังใจมีกลุ่มของนายภูเบศเป็นผู้รับผิดชอบหลักจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ
นายภูเบศกล่าวเพิ่มเติมว่า ความท้าทายสำหรับตน คือ เรื่องการประสานงาน เนื่องจากตนต้องประสานงานกับบุคคลจำนวนมาที่มีความแตกต่างหลากหลายทางช่วงวัย รวมถึงต้องสื่อสารเพื่อให้เพื่อนสมาชิกเชื่อมั่นในศักยภาพการเป็นผู้นำของตน
การคัดสรรบทเพลง
คณะทำงานศึกษาแนวทางการแสดงขับร้องเพลงถวายกำลังใจจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยมีโจทย์สำคัญว่าการขับร้องเพลงถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และจะต้องทำหน้าที่เป็นของขวัญสำหรับมอบให้แก่บัณฑิตผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรด้วย จากเงื่อนไขดังกล่าวจึงคัดเลือกเพลง “ถ้าเธอรักใครคนหนึ่ง” เพื่อสื่อถึงความรักความผูกพันที่ชาว มจธ. มีต่อพระองค์ท่านโดยเบื้องต้นตั้งใจใช้เพลงนี้ในการแสดงแค่เพลงเดียว แม้แบบอย่างจากหน่วยงานอื่นที่ศึกษามาจะมีรายการเพลงที่เตรียมไว้ประมาณสองถึงสามเพลงก็ตาม กระทั่งเกิดเหตุการณ์สวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทำให้มวลบรรยากาศภายในประเทศเปลี่ยนไป ทางคณะทำงานจึงเพิ่มเพลงพระราชนิพนธ์ “รัก” อันเป็นบทเพลงที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง โดยใช้เนื้อร้องจากกลอนสุภาพที่สมเด็จพระเทพฯ พระราชนิพนธ์ไว้ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เพื่อเสริมเรื่องราวความรักระหว่างพ่อ แม่ ลูก รวมถึงความรักอันแผ่ไพศาลซึ่งตรงกับแนวคิดของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีในการเผยแพร่คุณค่าความรู้ที่ดีสู่สังคม
เบื้องหลังการสร้างสรรค์งานแสดง
นายจีระศักดิ์ ถนัดค้า บุคลากรจากกลุ่มงานการสื่อสารเชิงกลยุทธ์และการตลาดเสริมว่า ตนไม่มีความรู้เรื่องดนตรีแต่เพื่อให้เนื้อหามีความหมายมากขึ้น จึงต้องการให้เรียบเรียงเพลงพระราชนิพนธ์ “รัก” เข้าไปในช่วงกลางของเพลง “ถ้าเธอรักใครคนหนึ่ง” ซึ่งสำหรับอาจารย์สุทธิพงษ์และนายภูเบศถือว่าเป็นงานที่ไม่ง่ายเนื่องจากทั้งสองเพลงมีทำนองจังหวะแตกต่างกันคนละช่องโน้ตดนตรี อีกทั้งการแสดงครั้งนี้มีเวลาฝึกซ้อมเพียงยี่สิบชั่วโมงเท่านั้น แม้ ศ.ดร.เชาวลิต เสนอให้ใช้ดนตรีประกอบที่บันทึกไว้ล่วงหน้า แต่นายจีระศักดิ์ มีความเห็นว่า ต้องการให้การแสดงออกมาแตกต่างไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นการไม่ใช้นักร้องเดี่ยว การไม่พึ่งพานักร้องคอรัสเพียงกลุ่มเดียว การเล่นสดทั้งวง และการผสมผสานเครื่องดนตรีที่หลากหลาย และด้วยการดำเนินทางพิธีการฯ การติดตั้งชุดเครื่องเสียงต้องพร้อมเคลื่อนย้ายได้ด้วย ด้วย เงื่อนไขเหล่านี้ส่งผลให้คณะทำงานต้องลดจำนวนไมค์กันเสียงสะท้อน รวมทั้งตั้งค่าเสียงกันในพื้นที่จริงก่อนการแสดงเพียง 1 วัน แม้ว่าวันแสดงจะมีปัญหาช่วงเริ่มต้นที่เครื่องดนตรีไม่ดัง แต่อาจารย์สุทธิพงษ์ กล่าวชื่นชมว่า คณะทำงานสามารถแก้ปัญหาได้ดี ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้จะช่วยให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ทักษะการทำงานเป็นหมู่คณะ ได้เรียนรู้เรื่องการรับฟังกันและกัน ซึ่งคือหัวใจของการเล่นดนตรี
การสร้างสรรค์วิดีทัศน์ประกอบการแสดง
นายจีระศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิดในการฉายวิดีทัศน์ประกอบการแสดงเป็นเรื่องที่แทบไม่มีใครล่วงรู้มาก่อน มีเพียงนักดนตรี นักร้องบางส่วน และอาจารย์สุทธิพงษ์ที่ตนเพิ่งแจ้งให้ทราบในวันซ้อมใหญ่ ซึ่งทำให้ท่านประหลาดใจและตั้งคำถามว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ เพราะแม้แต่ตัวนายจีระศักดิ์เองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะจัดการให้เสียงวิดีทัศน์ได้ยินชัดระหว่างการแสดงได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันที่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จมาทอดพระเนตร ทันทีที่วิดีทัศน์ซึ่งเป็นผลงานตัดต่อของนักศึกษาฝึกงานฉายประกอบพร้อมเสียงดนตรี ทั้งผู้ติดตาม รวมถึงผู้บริหารที่อยู่ ณ บริเวณนั้นต่างเกิดความรู้ท่วมท้นจนน้ำตาคลอ และภายหลังจบการแสดง สมเด็จพระเทพฯ ทรงมีพระประสงค์จะฉายพระรูปร่วมกับคณะทำงาน ซึ่งได้สร้างความปลาบปลื้มและประทับติดตราตรึงไม่รู้ลืมให้แก่ชาว มจธ.
ส่งท้าย
เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงเป็นหลักฐานยืนยันความสามารถทางศิลปะของบุคลากร นักเรียน นักศึกษา จากสถาบันการศึกษาที่โดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หากยังตอกย้ำคุณค่าของความสมัครสมานสามัคคีและความไว้เนื้อเชื่อใจอันนำไปสู่การสร้างสรรค์งานแสดงเพื่อถ่ายทอดความรักความเคารพต่อสมเด็จพระเทพฯ และได้มอบบทเรียนสำคัญอีกหนึ่งบทฝากไว้ให้จดจำว่า เมื่อหัวใจที่หลากหลายรวมเป็นหนึ่ง สิ่งซึ่งงดงามย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
บรรณานุกรม
(สุทธิพงษ์ เรืองจันทร์, ภูเบศ อินทร์สองใจ และจีระศักดิ์ ถนัดค้า, เบื้องหลังการแสดงขับร้องเพลงถวายกำลังใจในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2567, 9 ธันวาคม 2568).
Categories
Hashtags