50 ปี สหกรณ์ออมทรัพย์: จากการรวมพลังสู่ความยั่งยืนของชาวมหาวิทยาลัย
Published: 8 May 2025
3 views

สรุปเนื้อหาการสัมภาษณ์ อ.สุชาติ เพริดพริ้ง

เนื่องใน 50 ปี สหกรณ์ออมทรัพย์ มจธ.

ย้อนกลับไปก่อนการก่อตั้งราว 2 ปี (ช่วง พ.ศ. 2516) ช่วงเวลานั้นสมาชิกในมหาวิทยาลัยต้องเผชิญความยากลำบากในการบริหารจัดการหนี้สิน หลายคนต้องกู้ยืมเงินในสภาพไม่เป็นธรรม อาจารย์ และกลุ่มคณาจารย์จึงริเริ่มแนวคิด "เราน่าจะมีสหกรณ์เป็นของตัวเอง" นำไปสู่การล่ารายชื่อผู้ร่วมก่อตั้ง 100 คน และเชิญ ดร.ไพบูลย์ ที่ขณะนั้นท่านเพิ่งกลับจากต่างประเทศมารับตำแหน่งประธาน ที่ประชุมแรกจัดขึ้นในอาคารไม้หลังเก่า ในห้องเรียน 107 โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าร่วมให้คำแนะนำ การดำเนินการเริ่มต้นด้วยความตั้งใจและบรรยากาศเฮฮา แม้ไร้เบี้ยประชุม แต่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจเพราะเชื่อในเป้าหมายเดียวกัน


ยุคแห่งการเติบโตและบริหารงานแบบพี่น้อง

สหกรณ์ในยุคแรกถูกขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทั้งเรื่องเงินกู้และการออม เริ่มมีการเลือกตั้งคณะกรรมการ โดยไม่มีการหาเสียง ผู้ที่พูดเก่งหรือกล้าตอบคำถามมักได้รับเลือกด้วยเสียงปรบมือจากสมาชิก การบริหารงานยังเรียบง่าย เช่น การเลือกตั้งจะเวียนเปลี่ยนกรรมการปีละ 6 คน และมีการจับสลากออกในชุดแรก แม้จะไม่มีสำนักงานเป็นหลักแหล่ง แต่สมาชิกใช้พื้นที่ด้านบนของสำนักงานอธิการบดีและห้องประชุมเก่าเป็นสถานที่ทำงาน ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาโครงสร้างองค์กรอย่างจริงจัง

ยุควิกฤติ: ดอกเบี้ยสูง การลงทุน และบทเรียนจากความไว้ใจ

ยุคกลางของสหกรณ์ออมทรัพย์ตรงกับก่อนช่วงฟองสบู่เศรษฐกิจไทย พ.ศ. 2540 สหกรณ์มีเงินไหลเวียนสูง ดอกเบี้ยเงินกู้พุ่งแตะระดับ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทำให้เงินปันผลสูงมากจนสมาชิกบางคนถึงกับซื้อรถเก๋งได้จากเงินปันผลเพียงปีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ความเจริญเติบโตกลับนำไปสู่ความเสี่ยง การนำเงินไปลงทุนในสหกรณ์อื่นทำให้มีเสียงเรียกร้องให้ถอนสมาชิกภาพจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในวงกว้าง เช่น สหกรณ์คลองจั่น การบินไทย

เทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน: จากมือเขียนสู่ดิจิทัล

ก่อนมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทุกธุรกรรมของสหกรณ์ออมทรัพย์ มจธ. เราถูกจัดการด้วยมือ ตั้งแต่การบันทึกข้อมูลสมาชิก พิมพ์ใบฝากเงิน ไปจนถึงการคำนวณดอกเบี้ย ทุกอย่างดำเนินด้วยความแม่นยำของ “มนุษย์” และ “สมุด” เท่านั้น ต่อมาจึงเริ่มใช้ระบบฐานข้อมูลพื้นฐาน เช่น โปรแกรมดีเบส และพัฒนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เต็มรูปแบบ

การปฏิรูปสมัยใหม่: โปร่งใสและกระจายอำนาจ

การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายในภายหลัง เช่น กฎให้เว้นวรรคการดำรงตำแหน่ง และการควบคุมดอกเบี้ยไม่ให้เกิน 10% เป็นความพยายามของภาครัฐในการลดความเสี่ยงจากการผูกขาดและปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิก แม้จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เช่น การที่เจ้าหน้าที่ลาออกพร้อมกันเป็นจำนวนมาก จนเหลือเพียงคนเดียวทำงานอยู่ แต่สหกรณ์ก็ยังสามารถผ่านวิกฤตนั้นมาได้ด้วยความร่วมมือของสมาชิกและแนวทางการบริหารที่เน้นความโปร่งใส

ก้าวสู่อนาคต: ด้วยรากฐานแห่งความร่วมมือ

สหกรณ์ออมทรัพย์แห่งนี้ไม่ได้เกิดจากเงินทุนมหาศาล หรือระบบที่ซับซ้อน แต่เกิดจากพลังของคนธรรมดา ที่รวมใจกันแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน วันนี้สหกรณ์ไม่เพียงเป็นแหล่งเงินทุน แต่ยังเป็นเครื่องมือสร้างความมั่นคงให้กับสมาชิก และสะท้อนจิตวิญญาณของ มจธ. ที่ไม่ทิ้งกัน

 “จากบทสนทนาในห้องเล็กๆ สู่การเป็นองค์กรที่เติบโตมาครบ 50 ปี สหกรณ์แห่งนี้เป็นมากกว่าสถาบันทางการเงิน — มันคือเครื่องยืนยันถึงพลังของความร่วมมือที่แท้จริง”

                                       

สัมภาษณ์โดย ผศ. สนั่น สระแก้ว

ถอดเสียงโดย Transkriptor สรุปโดย ChatGPT เขียน prompt และปรับเนื้อหาโดย อารยา ศรีบัวบาน


Categories

Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...