ย้อนรอยรัชกาลที่ 4 ผ่านก้าวย่างที่วัดบวรนิเวศวิหาร
Published: 16 May 2025
4 views

ในแง่ของการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในแบบที่เข้าใจเรื่องราวของกษัตริย์ พระศาสนา และสังคมไทยไปด้วยกัน ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาหรือเยี่ยมชมวัดบวรนิเวศวิหารซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับรัชกาลที่ 4 ด้วยท่านเคยเสด็จมาครองวัดเมื่อครั้งก่อนขึ้นครองราชย์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2379 อาจกล่าวได้ว่า ในบางส่วนที่ศึกษาเรื่องราวของพระองค์อาจเห็นจุดเริ่มต้นแนวคิดการเปลี่ยนแปลงสยามในยุคนั้นก็ว่าได้

ความเป็นมา

วัดบวรนิเวศวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชกาลที่ 3 ทรงสร้างใหม่ในรัชกาลนั้น เมื่อ พ.ศ. 2379 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทรงอาราธนาพระอนุราชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎฯ (รัชกาลที่ 4) ที่ทรงผนวชเป็นพระภิกษุประทับอยู่วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) ให้เสด็จมาอยู่ครองวัดบวรนิเวศวิหาร (เดิมเรียกว่า วัดใหม่) และโปรดให้เสด็จเข้าไปทรงเลือกของในพระบวรราชวัง มีพระประสงค์สิ่งใด พระราชทานให้นำมาได้ เหตุที่ทำให้รัชกาลที่ 3 ทรงอาราธนาสมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎฯ เสด็จมาประทับวัดบวรนิเวศวิหาร เพราะว่า มีเสียงกล่าวหาสมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎฯ ในทางการเมือง ที่พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงความประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยเริ่มต้นคณะธรรมยุต และมีผู้เลื่อมใสมากขึ้น ซึ่งรัชกาลที่ 3 ไม่ทรงระแวงสงสัยแต่รำคาญพระราชหฤทัย จึงโปรดให้มาประทับใกล้ ๆ เพื่อให้เสียงกล่าวหาหมดไปเอง (วัดบวรนิเวศวิหาร, 2546 : 3)

ชื่อวัดบวรนิเวศวิหาร

ทั้งการที่ให้ย้ายมาอยู่ก็ดี ทั้งการให้เลือกของในพระราชวังบวรและพระราชทานชื่อ "วัดบวรนิเวศวิหาร" ย่อมเป็นเหมือนประกาศให้รู้ว่า ทรงเทียบสมเด็จพระอนุราชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎฯ ไว้ในฐานะกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ตำแหน่งมหาอุปราชเพื่อป้องกันความสำคัญผิดในการสืบราชสมบัติ เพราะคำว่า "บวรนิเวศ" เทียบได้กับคำว่า "บวรสถาน" ซึ่งเป็นที่เรียกกันว่า "วังหน้า" วัดนี้จึงเรียกกันสั้น ๆ ว่า "วัดบน"

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ก่อนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ ทรงผนวชอยู่ 27 พรรษา แต่เมื่อเทียบระยะเวลาที่มาครองวัดบวรนิเวศวิหารแห่งนี้จาก พ.ศ. 2379 - ปีที่เสด็จขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2394 เท่ากับว่า พระองค์ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหารอยู่ถึง 14 ปีเศษ ดังนั้นจึงมีเหตุการณ์ร่วมสมัยกับสถานที่สำคัญ และวัตถุต่าง ๆ ภายในวัดให้ได้เล่าถึง

สถานที่และวัตถุสำคัญของวัด

1. พระสุวรรณเขต หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า หลวงพ่อโต เป็นพระประธานที่มาจากวัดสระตะพาน จังหวัดเพชรบุรี สาเหตุที่ชื่อพระสุวรรณเขตนั้นเล่ากันว่า เม็ดพระศก (เม็ดผม) ขององค์พระพุทธรูปในสมัยนั้นดูไม่งดงามเพราะดูใหญ่เกินไปจึงต้องเลาะออกเพื่อทำใหม่ แต่ก็พบว่า มีสุวรรณเขตซ่อนอยู่ สมเด็จพระบวรเจ้า มหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ทรงเชิญพระสุวรรณเขตมาเป็นประธานแล้วจึงเชิญพระพุทธชินสีห์มาประดิษฐานไว้ที่มุขหลัง

สุวรรณเขต คือ หนึ่งในสามก้อนแร่กายสิทธิ์ของความเชื่อโบราณไทย หากสุวรรณเขตไปขีดลงบนโลหะอื่นใด โลหะนั้นจะกลายเป็นทองคำทันที อ่านเพิ่ม

2. พระพุทธชินสีห์ เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะตามแบบสุโขทัย สันนิษฐานว่า พระยาลิไทให้สร้างพร้อม ๆ กับพระพุทธชินราช เดิมประดิษฐานอยู่ที่พระวิหารด้านทิศเหนือของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อปี พ.ศ. 2380 ทูลกระหม่อมพระ "วชิรญาณภิกขุ" พระฉายาครั้งทรงผนวชของรัชกาลที่ 4 เมื่อครองวัดบวรนิเวศวิหารแล้ว พระองค์ได้ทูลขอพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อเชิญพระพุทธชินสีห์ออกจากมุขหลัง มาประดิษฐานไว้ที่ข้างหน้าพระสุวรรณเขต จึงเป็นที่มาของการมีพระพุทธรูปซ้อนกันมาจนถึงทุกวันนี้ อ่านเพิ่ม

พระพุทธชินสีห์องค์หน้า กับพระสุวรรณเขตพระประธานองค์หลัง

3. พระเจดีย์ เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 2394 เป็นพื้นที่เดียวกับมุขหลัง โดยรัชกาลที่ 4 ครั้งทรงผนวชและในรัชกาลของพระองค์เองได้ทรงบูรณะเพิ่มเติม ใน พ.ศ. 2409 ตามเจดีย์แบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ 4 เป็นทรงกลมแบบลังกา รูปแบบเดียวกับเจดีย์ทรงกลมสมัยอยุธยา พระองค์โปรดให้หล่อรูปสิงห์ ม้า ช้าง และนกอินทรีย์ ด้วยสำริด ตั้งบนซุ้มพระเจดีย์ บ้างตีความหมายว่า สื่อถึงประเทศที่ล้อมรอบสยาม (สิงห์ - สิงคโปร์, ม้า - พม่า, ช้าง - ลาว และนกอินทรีย์ - อาณาจักรโยนก) หรือตัวแทนของประเทศมหาอำนาจของโลก (สิงห์ - สหราชอาณาจักร, ม้า - ฝรั่งเศส, ช้าง - อาณาจักรล้านนา, นกอินทรีย์ - สหรัฐอเมริกา) อ่านเพิ่ม

กลางห้องด้านในประดิษฐานพระเจดีย์กาไกล่ทองและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้านตะวันออกประดิษฐานพระเจดีย์องค์เล็ก มีนามว่า พระไพรีพินาศเจดีย์ เมื่อครั้งเปิดสำรวจเจดีย์เมื่อ พ.ศ. 2507 เชื่อกันว่าพบลายพระหัตถ์ของรัชกาลที่ 4 ที่ให้เหตุผลชื่อของไพรีพินาศเจดีย์ว่า "...เพราะตั้งแต่ทำมาแล้วคนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ"

พระไพรีพินาศเจดีย์

สำหรับพระเจดีย์ด้านนอกทางด้านทิศตะวันออกมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หล่อจำลองจากพระบรมรูปต้นแบบที่ประดิษฐานภายในพระตำหนักเพ็ชร์ ซึ่งพระองค์ให้หล่อขึ้นเอง (ถือเป็นครั้งแรกของการหล่อพระรูปเหมือนจริงของกษัตริย์ที่ยังมีพระชนม์ชีพ เดิมมักสร้างพระพุทธรูปฉลองพระองค์เป็นตัวแทน) อ่านเพิ่ม

พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ถ่ายภาพจากด้านข้าง)

4. พลับพลาเปลื้องเครื่อง ไม่ใช่เพียงสถานที่ผลัดเปลี่ยนเครื่องฉลองพระองค์อย่างที่เข้าใจกัน แต่ยังสามารถให้ความหมายเฉพาะเจาะจงไปที่การเปลื้องเครื่องเฉลิมราชอิสริยยศเพื่อแสดงถึงการถ่อมพระองค์เมื่อเข้าสู่พระอาราม อย่างเช่นการเปลื้องพระมหาพิชัยมงกุฎซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนการเปลื้องเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งหลายออกไป คือ การปลดเปลื้องความเป็นพระราชาชั่วคราว

หน้าบันที่พลับพลาเปลื้องเครื่อง

5. พระตำหนักปั้นหยา เดิมเป็นที่ประทับของพระราชินีในรัชกาลที่ 2 เป็นอาคารแบบตึก ทรงยุโรป 3 ชั้น ไม่มีหน้าจั่ว กล่าวได้ว่า (วัดบวรนิเวศวิหาร, 2551 : 38) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมาครองวัดนี้จากการทูลเชิญของรัชกาลที่ 3 อาจเพื่อผลทางพระราโชบาย ร.3 จึงทรงโปรดให้สร้างพระตำหนักขึ้นเพื่อให้สมพระเกียรติก่อน ซึ่งในเวลาต่อมา วัดใหม่ แห่งนี้จึงได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดบวรนิเวศวิหาร" และน่าจะทำการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหลังคาปั้นหยามาเป็นแบบปัจจุบันที่เพิ่มหน้าบันด้วยลายปูนปั้นตามศิลปะนิยมตามรูปแบบจีน พระตำหนักแห่งนี้สตรีเพศไม่สามารถเข้าไปได้ และหลักจากที่รัชกาลที่5 สร้างตำหนักทรงพรตและหอสหจรแล้ว เจ้านายที่ทรงผนวชก็จะไปประทับ ส่วนพระตำหนักปั้นหยาจึงเป็นที่ประทับตามประเพณีเท่านั้น

พระราชลัญจกรในรัชกาลที่ 4 ณ หน้าบันพระตำหนักปั้นหยา

ในวัดบวรนิเวศวิหารยังมีสิ่งที่น่าเรียนรู้และน่าสนใจอีกมาก ทั้งใบเสมา ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง ปริศนาธรรม ฯ อีกหลายเรื่องราว แม้น่าสนใจเพียงใดก็ไม่มีอะไรชัดเจนและน่าจดจำเท่ากับไปเรียนรู้ประสบการณ์ด้วยตนเอง หากใครได้ไปสัมผัส หรือมีความทรงจำที่อยากบอกเล่าสามารถแบ่งปันประสบการณ์ผ่านคอมเมนท์ที่นี่ได้นะ

อ้างอิง

(2546). วัดบวรนิเวศวิหาร (พิมพ์ครั้งที่ 3). นครปฐม: โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย.

ThaiM_n_A. (2562). วัดบวรนิเวศ : พระเจดีย์. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2568. URL: https://thaimna.wordpress.com/2019/06/01/วัดบวรนิเวศวิหาร-พระเจด.

กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม. 2568. หลวงพ่อโต วัดบวรฯ พระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 800 ปี. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2568. URL: https://www.silpa-mag.com/history/article_141515.

ฉลวย จารุภานานนท์. (2551). วัดบวรนิเวศวิหาร. กรุงเทพฯ: ศิวกรการช่าง.

ธรรมธาร. (2559). ประวัติ พระสุวรรณเขต และ พระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2568. URL: https://www.facebook.com/share/1KMu5VbJhC/.

วัดบวรนิเวศวิหาร. (2517). วัดบวรนิเวศวิหาร. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิวพร.

ศรัณย์ มะกรูดอินทร์. (2564). พระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร: ศูนย์กลางจักรวาลและมหาอำนาจของโลกในวิสัยทัศน์ของรัชกาลที่ ๔. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2568. URL: https://www.facebook.com/notes/764815621039529/.

Comments
To join the comment, please sign in.
Sign in
Don’t have an account? Register
Loading comments...